ต้อยทูเดย์ออนไลน์ Toytodayonline

วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568

น่าน จังหวัดน่าน เปิดงาน เทศกาลคนปลูกกาแฟน่าน Nan Coffee Farmer’s Fest 2025 ยกระดับกาแฟน่านสู่เวทีระดับประเทศ

เมื่อเย็นวานนี้ (12 กันยายน 2568) เวลา 18.00 น. ที่บริเวณข่วงน้อยเมืองน่าน นายประจักร์ ไชยกิจ ปลัดจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดงาน “เทศกาลคนปลูกกาแฟน่าน Nan Coffee Farmer’s Fest 2025” โดยมีนายศักดิ์สิทธ์ ศรีวิชัย เกษตรจังหวัดน่าน   กล่าวรายงาน    การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์แหล่งผลิตและผลิตภัณฑ์กาแฟน่านให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในระดับประเทศ พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟพัฒนาคุณภาพและยกระดับมาตรฐานการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดเป้าหมาย อันจะช่วยขับเคลื่อนห่วงโซ่การผลิตกาแฟน่านตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำโดยมีนายศักดิ์สิทธ์ ศรีวิชัย เกษตรจังหวัดน่าน   กล่าวรายงาน                             งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12–14 กันยายน 2568 ภายใต้แนวคิด “ความหลากหลายที่เป็นเอกลักษณ์ของกาแฟน่าน (Unity through Diversity)” สะท้อนถึงความหลากหลายของสายพันธุ์กาแฟ ทั้งอาราบิก้าและโรบัสต้า ที่สามารถปลูกได้ในพื้นที่จังหวัดน่าน อันเป็นผลจากภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะสม ทำให้กาแฟน่านมีคุณภาพและเอกลักษณ์โดดเด่น การันตีด้วยรางวัลจากการประกวดระดับประเทศอย่างต่อเนื่องภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ  • การประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟประจำปี 2568 ซึ่งมีตัวอย่างเมล็ดกาแฟเข้าร่วมกว่า 100 ตัวอย่างจากทั่วประเทศ การจัดแสดงนิทรรศการและออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์กาแฟจากเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการกว่า 50 บูธ   การเสวนาทิศทางกาแฟโลกกับการพัฒนากาแฟน่าน   คลินิกกาแฟและเวิร์กช็อปการคัดเมล็ดกาแฟ  Cupping กาแฟ   การประกวดธิดากาแฟ   การแข่งขันด้านทักษะกาแฟ เช่น คัดเมล็ด ดริปกาแฟ และชิมกาแฟ                            การจัดงานในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของคลัสเตอร์กาแฟน่าน หอการค้าจังหวัดน่าน เกษตรกรผู้ปลูกและผู้ประกอบการกาแฟ หน่วยงานภาคีเครือข่าย สถาบันการศึกษา องค์กรพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเทศบาลเมืองน่านที่สนับสนุนสถานที่   พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการกาแฟ และการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการ เพื่อสร้างการรับรู้และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของกาแฟน่าน สู่สินค้าเกษตรปลอดภัยและมูลค่าสูงได้อย่างยั่งยืน                                                                

น่าน รองประธาน มูลนิธิรักษ์ป่าน่าน ในพระราชูปถัมภ์ ตรวจเยี่ยม โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน 2 และตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลไชยวัฒนา ด้านสาธารณสุข ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ที่โรงเรียนศรีสระวงค์ โรงเรีนยองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่านน 2 นายบัณฑูร ล่ำซำ รองประธานมูลนิธิรักษ์ป่า  ตรวจเยี่ยมโรงเรียน ทราบข้อมูล พื้นฐาน เพื่อรับทราบปัญหาและอุปสรรค์ ในการส่งเสริมการศึกษาของเด็กในพื้นที่ห่างไกล ที่อยู่ในความดูแลขอฃง องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน 2 ได้มีโอกาสได้รับการศึกษาได้อย่างต่อเนื่อง                             พร้อมกันนี้ ได้เดินทางตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (หรือ) รพ.สต.ตำบลไชยวัฒนา ที่อยู่ในสังกัดขององค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน เพื่อรับทราบปัญหารและการดำเนินงาน ในรอบปีที่ผ่านมา   เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง  การขาดแคลนของอุปกรณ์การดูแลสุขภาพของประชาชน มีประสิทธิภาพประสิทธิผลยิ่งขึ้น   โดยเฉพาะการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค  มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ไชยวัฒนา                               ทึ้งนี้  มูลนิธิรักษ์ป่าน่านในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี    ไม่ได้ดูแลแค่ผืนป่าและสิ่งแวดล้อมในจังหวัดน่านให้อุดมสมบูรณ์เพียงเท่านั้น เพราะอีกหนึ่งความตั้งใจที่สำคัญคือ ‘การดูแลชีวิตคนน่าน’ ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีและยั่งยืน    สุขภาพดีคือ พื้นฐานของชีวิตที่ดี   เมื่อร่างกายแข็งแรง ก็จะมีแรงที่จะออกไปใช้ชีวิต ไปทำงานที่เรารัก มีพลังทำทุกสิ่งได้ดั่งใจหวัง แต่หากร่างกายเจ็บไข้ได้ป่วย  ไม่ได้รับการรักษาที่ดีเพียงพอ ก็จะทำให้ไร้แรงพลังใช้ชีวิต  ไม่สามารถทำงานได้เต็มพลังความสามารถ และสูญเสียโอกาสต่าง ๆ  มูลนิธิฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของระบบสาธารณสุขในจังหวัดน่าน  และช่วยสนับสนุนงบประมาณและอุปกรณ์การแพทย์ให้กับสถานพยาบาลแห่งต่าง ๆ เพื่อให้คนน่านได้รับการรักษาที่ดีประชาชนและเจ้าหน้าที่ด่านหน้า  มีระบบสาธารณสุขที่ภาครัฐเตรียมพร้อมในการรักษาอย่างดีในทุกระดับ แต่งบประมาณและอุปกรณ์ยังไม่เพียงพอต่อการรักษาอย่างทั่วถึงมูลนิธิฯ จึงได้ให้ความช่วยเหลือ เช่น ได้สมทบทุนจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย   รวมถึงปรับปรุงอาคารสถานที่ของโรงพยาบาลให้สะอาด เหมาะสม เพื่อให้บุคลากรของรัฐทำหน้าที่ได้เต็มประสิทธิภาพในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็น   เพื่อให้คนน่านได้รับการรักษาอย่างทั่วถึงและมีมาตรฐานเท่าเทียมกัน  คุณภาพชีวิตดีขึ้น.                                                   

น่าน - อำเภอปัว จังหวัดน่าน เปิดงานเทศกาลโลกของกว่าง นักสู้แห่งขุนเขา และงานของดีอำเภอปัว ประจำปี 2568 ท่ามกลางสายฝนกระหน่ำ จนเปี๊ยกโชก

เมื่อเย็นวานนี้( 13 ก.ย.68) ที่สถานีขนส่งรถโดยสารอำเภอปัว จังหวัดน่าน นางวิไลวรรณ  บุดาสา  รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดการจัดงาน เทศกาลโลกของกว่าง นักสู้แห่งขุนเขา ประจำปี 2568 โดยมี นายอำเภอปัว พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานภาคราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำหมู่บ้านต่างๆ ของอำเภอปัวร่วมเปิดงาน ซึ่งในปีนี้ ได้จัดให้มีขบวนแห่ หุ่นกว่าง มีริ้วขบวนที่สวยงาม  เพื่อแสดงออกถึงวิถีชีวิตขนบธรรมเนียมประเพณีอันดี ของชาวอำเภอปัว ให้คงอยู่สืบไป   ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน    ทั้งนี้  งานเทศกาลโลกของกว่าง นักสู้แห่งขุนเขา จัดขึ้น  เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ  และการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีของท้องถิ่น จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 - 22 กันยายน 2568 ณ  สถานีขนส่งรถโดยสารอำเภอปัว                          สำหรับกว่าง เป็นแมลงปีกแข็ง มีวงจรชีวิตประมาณ 1 ปี โดยเริ่มจากไข่ ฟักตัวเป็นตัวอ่อนอยู่ในดิน ตามโพรงไม้ ตอไม้ผุๆ จากนั้นจะเป็นดักแด้  แล้วลอกคราบเป็นแมลงกว่าง ออกจากดินบินออกมา หาคู่ผสมพันธุ์ วางไข่ในราวเดือน สิงหาคม-พฤศจิกายนแล้วตายไป  กว่างตัวผู้จะมีเขา 2 เขา 3 เขา หรือ 5 เขา มีหลายขนาด โดยใช้เขาล่างงัดและหนีบศัตรูเพื่อแย่งตัวเมียในการผสมพันธุ์                          โดยภายในงานจัดให้มีการประกวด ขบวนแห่จากหมู่บ้านต่างๆ การละเล่นพื้นบ้านและวิถีชีวิตของชนเผ่า การชนกว่าง การประกวดกว่าง การประกวดร้องเพลง การประกวดธิดากว่าง การเดินแฟชั่น  การจัดจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายสินค้าราคาถูก  จากคาราวานสินค้านำมาจำหน่ายในราคาถูก การแสดงคอนเสิร์ตนักร้อง วงดนตรี ค่ายต่างๆ มาแสดงทุกค่ำคืนด้วย  ส่วนในวันที่ 22  กันยายน 2568 หลังเสร็จสิ้นงาน จะมีการปล่อยกว่าง กลับคืนสู่ป่าเพื่อเป็นการให้กว่างได้ขยายพันธุ์ต่อไป

อุบลฯ​ -​พสบ.ทภ.2 รุ่นที่ 2 จัดหมูกระทะ 100 เตา เลี้ยงทหารกล้า 300 นาย ชาย​แดน​ไทย–กัมพูชา พร้อมมอบเงินร่วม 1.2 แสน ซื้อรถไถพ่วงขนส่งยุทธภัณฑ์​

เมื่อวันที่ 14 กันยายน​ 2568​ เวลา​ 12.00น. ที่ฐานปฏิบัติการอนุพงศ์ ช่องบก ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานีน.ส.ธนชนก สุริยเดชสกุล ผู้แทนคณะนักศึกษาหลักสูตรคณะสัมพันธ์ ระดับผู้บริหาร กองทัพภาคที่ 2 รุ่นที่ 2 (พสบ.ทภ.2 รุ่นที่ 2) พร้อมด้วย นายพัฒน์เกียรติขจร สายแวว ผู้จัดการคันทรี่เฮ้าส์เชียงใหม่ นายอรรครัตน์ รัตนจันทร์ นายกสมาคมสื่อสารมวลชนไทยอินโดจีน และคณะส่วนราชการ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดอุบลราชธานี ได้นำ “หมูกระทะ 100 เตา” พร้อมขนมและเครื่องดื่ม มาจัดเลี้ยงแก่กำลังพลกว่า 300 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยแนวชายแดนไทย–กัมพูชาในโอกาสนี้ คณะยังได้มอบเงินจำนวน 119,900 บาท เพื่อสนับสนุนการจัดซื้อรถไถพ่วงสำหรับใช้ขนส่งยุทธภัณฑ์ โดยมี พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ให้การต้อนรับและเป็นผู้แทนรับมอบน.ส.ธนชนก กล่าวว่า การมาจัดเลี้ยงหมูกระทะในครั้งนี้เป็นการส่งมอบกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทหารผู้ปกป้องผืนแผ่นดินไทย แสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวของพี่น้องชาวไทยที่รวมพลังน้ำใจ ตอบแทนการเสียสละของกำลังพล และขอให้ทหารไทยทุกนายมีกำลังใจที่เต็มเปี่ยมในการปฏิบัติภารกิจเพื่อชาตินายอรรครัตน์ รัตนจันทร์ นายกสมาคมสื่อสารมวลชนไทยอินโดจีน กล่าวเสริมว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา สื่อมวลชนได้เห็นถึงความทุ่มเทและเสียสละของทหารชายแดนไทย–กัมพูชา ครั้งนี้จึงขอมีส่วนร่วมในการแสดงน้ำใจและขอบคุณ ด้วยการจัดเลี้ยงหมูกระทะ มอบเป็นขวัญกำลังใจแก่กำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แนวชายแดนด้าน พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณคณะ พสบ.ทภ.2 รุ่นที่ 2 และทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ได้ร่วมกันสร้างกำลังใจให้กับน้องๆ ทหารชายแดน พร้อมยืนยันว่า ทหารไทยทุกนายมีขวัญและกำลังใจที่ดีเยี่ยม และจะทำหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทยด้วยความเข้มแข็งตลอดไปภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน

ชาวบ้านสงสารพบหมาเพศผู้สีดำหัวติดกระป๋องเอาออกไม่ได้มานาน 5 วันแล้วไม่ได้กินอาหารและน้ำเกรงว่าจะเสียชีวิต

เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 14 กันยายน 2568 ที่บริเวณบ้านเทพประทาน หมู่ที่ 14 ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ชาวบ้านเกิดความสงสารพบเห็นหมาเพศผู้สีดำที่บริเวณหัวมีกระป๋องสีใสๆคล้ายกระป๋องใส้ขนมครอบหัวอยู่มาหลายวันแล้วแต่ไม่มีใครกล้าช่วยเหลือได้เพราะเกรงว่าหมาตัวนี้จะกัดเอา ต่อมาชาวบ้านได้รวมตัวกันช่วยกันออกตามหาจนมาพบและช่วยกันล้อมจับจนสามารถจับตัวหมาเอาไว้ได้และได้หากรรไกรมาช่วยตัดกระป๋องออกมาได้แต่ยังติดขอบฝากระป๋องที่มีความหนาบริเวณลำคออยู่ เนื่องจากหมาได้ดิ้นหลุดออกมาได้แล้ววิ่งหลบหนีไป แต่ยังไงหมาตัวนี้ก็คงไม่ตายแล้วเพราะจะได้กินอาหารและน้ำเนื่องจากหมาตัวนี้ไม่ได้กินอาหารและน้ำมาเป็นเวลา 5 วัน
สมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่//ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

น่าน องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน ร่วมกับ สภาวัฒนธรรมฯ และสมาคมเรือแข่ง เปิดการแข่งข้น งานประเพณีแข่งเรือเอกลักษณ์น่าน สานสัมพันธ์ ประจำปี 2568

                          เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลา 16.00 น. ณ บริเวณกองอำนวยการแข่งเรือ (ปะรำพิธีฝั่งทางบ้านแสงดาว) จังหวัดน่าน องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน ร่วมกับ สภาวัฒนธรรมจังหวัดน่าน และสมาคมเรือแข่งจังหวัดน่าน จัดพิธีปิดงาน ประเพณีแข่งเรือเอกลักษณ์น่าน สานสัมพันธ์ น่านเหนือ น่านกลาง น่านใต้ จังหวัดน่าน ประจำปี 2568 โดยมี นายสุเมธ สายสูง ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ คณะกรรมการจัดงาน ผู้สนับสนุน และพี่น้องประชาชนชาวน่านเข้าร่วมอย่างคับคั่ง   ในพิธีปิดงาน นายราเชนทร์ กาบคำ ในนามคณะกรรมการจัดงาน ได้กล่าวรายงานว่า การแข่งขันประเพณีแข่งเรือในปีนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นลงด้วยความเรียบร้อย ทีมฝีพายจากหลายพื้นที่ของจังหวัดน่านได้แสดงศักยภาพและความสามัคคีอย่างเต็มที่ ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานและมิตรภาพอันดี                        จากนั้นประธานในพิธีได้มอบรางวัล ถ้วยเกียรติยศ และเงินรางวัลให้แก่ทีมเรือที่ชนะการแข่งขันในแต่ละประเภท ดังนี้  ประกอบด้วย  ประเภทเรือเอกลักษณ์น่าน   รางวัลที่ 1 เงินสด 12,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ กายรัตนา บ้านบุปผาราม      รางวัลที่ 2 เงินสด 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ เทพสุริยา 66 บ้านคั้วะดอนทอง     รางวัลที่ 3 เงินสด 8,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ เทพจอมหมอก บ้านน้ำเกี้ยน  รางวัลที่ 4 เงินสด 6,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ เพชรประดู่ทอง บ้านดู่ต้นฮ่าง–วัดศรีภู่เสี้ยว                                ประเภทเรือกลาง   •รางวัลที่ 1 ข เงินสด 5,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ เนตรมงคลทอง หมู่ 2 หมู่ 8 บ้านพระเนตร    รางวัลที่ 1 เงินสด 12,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ เทพศรัทธาศรีกลางเวียง บ้านกลางเวียง     รางวัลที่ 2 เงินสด 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ ศรสุวรรณ วัดศรีกู่เสี้ยว  รางวัลที่ 3 เงินสด 8,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ แม่เนื้อทอง บ้านสวนหอม    รางวัลที่ 4 เงินสด 6,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ พรเจ้าหลวงแสนคำ 1 บ้านหาดผาขน รางวัลที่ 1 ข เงินสด 5,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ แม่ศรีไว บ้านสวนหอม    รางวัลที่ 2 ข เงินสด 4,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ มณีสายชล บ้านบุปผาราม                        ประเภทเรือเล็ก   รางวัลที่ 1 เงินสด 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ ขุนติ้งเพชรทรายทอง วัดพระเนตร  รางวัลที่ 2 เงินสด 8,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ สาวสวยพิมพ์นภา บ้านกลางเวียง   รางวัลที่ 3 เงินสด 7,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ เพชรพระธาตุ บ้านหนองเต่า   รางวัลที่ 4 เงินสด 6,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ ธิดาดอกซ้อ บ้านสวนหอม    ที่ 1 ข เงินสด 5,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ ธิดาพญาแก้ว 314 วัดธงน้อย–ธงใหม่   รางวัลที่ 2 ข เงินสด 4,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ พรเจ้าหลวงแสนคำ 2 บ้านหาดผาขน   รางวัลที่ 3 ข เงินสด 3,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ ได้แก่ เพชรพิบูลย์นันทวัฒน์ บ้านม่วงตี๊ด            ทั้งนี้ ประธานในพิธียังได้กล่าวปิดงาน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสืบสานประเพณีแข่งเรือจังหวัดน่าน ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า พร้อมเชิญชวนพี่น้องชาวน่านร่วมกันอนุรักษ์และสืบสานกิจกรรมนี้ให้คงอยู่คู่จังหวัดน่านสืบไป

ไทย-มาเลเซีย เปิดฉาก “Goodwill Games 2025” Thailand-Malaysia นักกีฬา 2 ชาติร่วมประชันยิ่งใหญ่ เชื่อมมิตรภาพสองชาติผ่านพลังกีฬาเติมเต็มมิตรภาพสองแผ่นดิน​

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 14 กันยายน 2568 ที่สนามกีฬามหาราช อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส นายมงคล วิมลรัตน์ อธิบดีกรมพลศึกษา เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาและนันทนาการเพื่อสร้างเสริมความสัมพันธ์ไทย-มาเลเซีย หรือ Goodwill Games Thailand-Malaysia 2025 โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, DATUK KARUDIN BIN MUHAMAD NUR รองมุขด้านกีฬาและกิจการเยาวชน, YANG BERISAHA MUHAMAD YUSUF KHAN BIN MUHAMAD HUSEN ผู้แทนฝ่ายประเทศมาเลเซีย ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการและแขกผู้มีเกียรติทั้งสองประเทศเข้าร่วมอย่างคับคั่งนายณรงค์ สังประสิทธิ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า การแข่งขันครั้งนี้กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สนับสนุนงบประมาณให้จังหวัดนราธิวาสจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13–15 กันยายน 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการออกกำลังกาย สร้างสุขภาวะที่ดีให้แก่ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา พร้อมทั้งเสริมสร้างมิตรภาพ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เผยแพร่ Soft Power และส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทย-มาเลเซียสำหรับการแข่งขัน Goodwill Games Thailand-Malaysia 2025 มีนักกีฬาจากสองประเทศเข้าร่วมเกือบ 1,000 คน ฝ่ายมาเลเซียส่งทีมจาก 8 พื้นที่ ได้แก่ กัวลาลัมเปอร์, ปุตราจายา, ยะโฮร์บารู, กลันตัน, ตรังกานู, มะละกา, เปรัค และเนเกอรีเซมบิลัน ส่วนฝ่ายไทยมีนักกีฬาจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา และสตูลการแข่งขันประกอบด้วยกีฬา 7 ประเภท อาทิ ฟุตบอลทั่วไป ฟุตบอล All Star มวยไทย เปตอง วอลเลย์บอล ปันจักสีลัต ยิงธนู เซปักตะกร้อ รวมถึงกีฬาพื้นบ้านและการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน องค์กรท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่นายมงคล วิมลรัตน์ อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า โครงการนี้มีความหมายอย่างยิ่ง เพราะนอกจากเป็นเวทีแสดงศักยภาพด้านกีฬาและนันทนาการแล้ว ยังเป็นสะพานเชื่อมโยงมิตรภาพไทย–มาเลเซีย ผ่านพลังของกีฬาและวัฒนธรรม ซึ่งเป็น Soft Power สำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของทั้งสองประเทศ อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของกรมพลศึกษาในการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกเพศทุกวัย“ผมเชื่อมั่นว่า Goodwill Games Thailand-Malaysia 2025 จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างสองประเทศ และนำไปสู่ประโยชน์ทั้งด้านกีฬา การท่องเที่ยว วัฒนธรรม และเศรษฐกิจในอนาคต” อธิบดีกรมพลศึกษากล่าว#นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

น่าน จังหวัดน่าน เปิดงาน เทศกาลคนปลูกกาแฟน่าน Nan Coffee Farmer’s Fest 2025 ยกระดับกาแฟน่านสู่เวทีระดับประเทศ

เมื่อเย็นวานนี้ (12 กันยายน 2568) เวลา 18.00 น. ที่บริเวณข่วงน้อยเมืองน่าน นายประจักร์ ไชยกิจ ปลัดจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดงาน ...