นครสวรรค์​ ประชุม​คณะอนุกรรมการกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมจังหวัดนครสวรรค์​

วันพุธที่ 30 มิถุนายน 2564 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์ นายปรีชา เดชพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมจังหวัดนครสวรรค์ ครั้งที่ 2/2564 โดยพร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฯ และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ

!!!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ภูธร​0619525644!!!!! 

นครสวรรค์​ ร่วมประชุม​ทางไกล ติดตามประเด๊นการตรวจราชการกระทรวง​มหาดไทย​

วันพุธที่ 30 มิถุนายน 2564 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม 301 ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ นายปรีชา เดชพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ร่วมประชุมทางไกลติดตามประเด็น การตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ประจำเดือนมิถุนายน 2564 พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ โดยมีนายภูสิต สมจิตต์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขตตรวจราชการที่ 18 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนล่าง 2 เป็นประธานการประชุมฯ

!!!!!!!ต้อย รอบ​รั้ว​ ภูธร​0619525644!!!!

นครสวรรค์​ ประชุม​หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน

วันพุธที่ 30 มิถุนายน 2564 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครสวรรค์ นายปรีชา เดชพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ให้เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครสวรรค์ ครั้งที่ 6/2564 เพื่อทราบ สรุปผลการดำเนินงาน โครงการ กิจกรรมที่สำคัญ ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครสวรรค์

!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ ภูธร​0619525644!!!! 

นครพนม - ร.3 พัน.3 จิตอาสาหมุนเวียนบริจาคโลหิตทุกสัปดาห์ ให้กับโรงพยาบาลนครพนมช่วยเหลือภาวะขาดแคลนโลหิตในสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 (ระลอก 3)​

ที่ค่ายพระยอดเมืองขวาง ตำบลกุรุคุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า                            สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวโควิด 19 ส่งผลให้มีผู้ไปบริจาคโลหิต ณ สถานที่รับบริจาคต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.นครพนมน้อยลง ทำให้ปริมาณโลหิตสำรองมีไม่เพียงพอต่อการรองรับการรักษาพยาบาล ซึ่งยังคงมีผู้เจ็บป่วยที่ต้องการโลหิตอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขต่อปัญหาดังกล่าว และให้มีปริมาณโลหิตสำรองที่เพียงพอ รวมทั้งเป็นการช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง กองทัพบก โดย กองพันทหารราบที่ 3  กรมทหารราบที่ 3 จึงได้จัดทำโครงการ "จิตอาสา ร่วมบริจาคโลหิต เพื่อชาติ"   ซึ่งเป็นโครงการจากกองทัพบบก โดยมีกำลังพลจิตอาสาของหน่วยร่วมบริจาคโลหิต ในพื้นที่ จ.นครพนมอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกๆสับดาห์ โดย พันโท ศรณณัฐ  นวลมณี  ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3               กรมทหารราบที่ 3 (ผบ.ร.3 พัน.3) มีความห่วงใยจากสถานการณ์โควิด -19 ในปัจจุบันถือว่าเป็นวิกฤตสำคัญที่สุดจัดกำลังพลทหารจิตอาสาหมุนเวียนบริจาคโลหิต ร่วมบริจาคโลหิตให้กับธนาคารเลือด โรงพยาบาลนครพนม จ.นครพนม ในห้วงการแพร่ระบาดของเชื้อเชื้อไวรัสโควิด 19  (ระลอก 3) เพื่อเป็นโลหิตสำรองให้กับผู้ป่วยฉุกเฉิน และใช้ในกรณีเร่งด่วนตามนโยบายและโครงการ “บริจาคโลหิต จิตอาสาเพื่อชาติ”             เพื่อช่วยเหลือภาวะขาดแคลนโลหิตในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งส่งผลทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งได้รับผลกระทบขาดแคลนโลหิตอยู่ในขั้นวิกฤต ในการบริจาคโลหิตในครั้งนี้ โดยได้ปริมาณโลหิตสำรอง 2,500 ซีซี________กองพันทหารราบที่ 3  กรมทหารราบที่ 3 ขอประชาสัมพันธ์ เชิญชวนประชาชนจิตอาสา ในพื้นที่ จ.นครพนม ผู้มีสุขภาพดี ร่วมบริจาคโลหิต เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องการโลหิตในการรักษา ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ประชาชนและจิตอาสาร่วมบริจาคโลหิตในโครงการ                        "จิตอาสา ร่วมบริจาคโลหิต เพื่อชาติ" หลังพบยุคโควิดคลังเลือดขาดแคลนหนัก ร่วมบริจาคโลหิต                                    ณ สถานพยาบาลใกล้บ้านได้ทั่วประเทศ ภาพ : ขอบพระคุณภาพจาก ร.3 พัน.3

ข่าว : ไทบ้าน  นิวส์ (พรพิพัฒน์  เพ็ชรสังหาร)

ทหารจิตอาสา พร้อมด้วย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัดหนองบัวลำภู'เข้าซ่อมแซมบ้านประชาชน

28/06/64 พันเอก ณรงค์   วิชญาณวรวุฒิ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 8  ค่ายสีหราชเดโชไชย ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น  จัดกำลังพล ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หนองบัวลำภู นำกำลังพล พร้อมด้วย ประชาชนจิตอาสา  ผู้นำท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ร่วมกันทำการซ่อมแซมปรับปรุงบ้านพักอาศัยที่ชำรุดทรุดโทรม ณ บ.หนองบัวเหนือ ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู   “โครงการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาส”  ตามนโยบายของกองทัพบก  ในการคืนความสุขให้แก่ประชาชน      พ.อ.พุทธิวัฒน์  สิริพงศ์พล รองกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัดหนองบัวลำภู'  (ฝ่ายทหาร) พร้อมด้วยหมวดสาวัตรทหารกรมทหารราบที่ 8  ดำเนินการต่อเติมกันสาดบังแดด, ฝน ให้กับนาง วิไล นอบไทย อายุ 66 ปี บ้านเลขที่ 103 บ.หนองบัวเหนือ ต.โนนทัน อ.เมือง จว.หนองบัวลำภู ซึ่งมีฐานะยากจน อยู่คนเดียวเพียงลำพัง ซึ่งของเดิมได้ชำรุด ผุพัง เวลาฝนตกน้ำฝนได้ไหลเข้าภายในบ้าน ทั้งนี้นาง วิไลฯ ได้กล่าวขอบคุณทั้งน้ำตาที่ทาง กอ.รมน.จังหวัด น.ภ. ได้เข้าช่วยเหลือ    นาง วิไล  นอบไทย กล่าวทั้งน้ำตา บอกว่า ตนไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ปัจจุบันได้อาศัยบ้านญาติอยู่ไม่ไดประกอบอาชีพใดๆ มีเพียงเบี้ยผู้สูงอายุ และการช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านที่หยิบยื่นให้ วันนี้ตนรู้สึกดีใจและตื้นตันใจมาก  ที่ทางทหาร ผู้ใหญ่บ้าน  ชาวบ้าน และจิตอาสา  ต่างเข้ามาช่วยเหลือ     ด้าน  ร.ท.สมชาย  เพียคำลือ   เปิดเผยว่า  จากการลงพื้นที่ดูแลความเป็นอยู่ของชาวบ้าน พบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีสภาพทรุดโทรม ฝาบ้านพัง หลังคาบ้านทะลุ  อีกทั้งความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้ มีความยากลำบาก  ทางกองทัพบก จึงเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ซ่อมแซมปรับปรุงบ้านให้ใหม่ เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป 

ภาพ : ขอบพระคุณภาพจาก ร.8   ข่าว : ออนซอน นิวส์

นครพนม - รอง มทภ.2 (3) พร้อมคณะตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการรับทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/64 ค่ายพระยอดเมืองขวาง

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2564 ที่ค่ายพระยอดเมืองขวาง ตำบลกุรุคุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตรี สวราชย์  แสงผล  รองแม่ทัพภาคที่ 2 (3) ลงพื้นที่เนื่องในโอกาสเดินทางมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ จ.นครพนม เพื่อตรวจเยี่ยมและให้คำแนะนำการเตรียมการรับทหารใหม่ ผลัดที่ 1/64                ของค่ายพระยอดเมืองขวาง ที่จะเข้าประจำการในวันที่ 1 กรกฏาคม 2564 โดยมีพลตรี สามารถ  จินตสมิทธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 (ผบ.มทบ.210) พันโท ศรณณัฐ  นวลมณี  ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 (ผบ.ร.3 พัน.3) พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชาและกำลังพล ร่วมให้การต้อนรับโดยครั้งนี้ได้เข้าตรวจเยี่ยม และกำชับมาตรการการรับทหารกองประจำการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งต้องเป็นไปตามนโยบายของกองทัพบกและทางสาธารณสุขจังหวัดกำหนด รวมถึงการจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัวตามสิทธิ์ที่พึงได้รับตามสิทธิ์ของทหารกองประจำการ การเตรียมความพร้อมด้านการฝึกแบบ New normal และที่สำคัญได้ให้คำแนะนำตามนโยบายสั่งการของผู้บัญชาการทหารบก                              ในการฝึกภายใต้มาตรการป้องกันไวรัส Covid-19 โดยจะทำการตรวจหาเชื้อทหารใหม่ทุกนายก่อนเข้าประจำการและทำการกักตัวก่อนทำการฝึกเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ทำการกักตัว ครูฝึกทุกนายก่อนที่จะทำการรับทหารใหม่เป็นเวลา 14 วัน และได้รับการตรวจหาเชื้อว่าปลอดจากเชื้อโควิด-19                            จากทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม จำนวน 2 ครั้งเรียบร้อย จัดเตรียมแผนเผชิญเหตุเมื่อตรวจพบผู้ติดเชื้อ การแยกส่วนการประกอบอาหาร และรับประทานอาหารเป็นต้น ทั้งนี้ได้เน้นย้ำในส่วนอำนวยการฝึก และครูฝึกทุกนายในการดูแลทหารกองประจำการที่จะเข้าประจำการใน 1 กรกฏาคม 2564 ให้ดำเนินการฝึกตามแนวทางที่กรมยุทศึกษาทหารบกกำหนดเน้นการปฏิบัติจากเบาไปหาหนัก และให้ดูแลสิทธิสวัสดิการอย่างครบถ้วน  ภาพ : ขอบพระคุณภาพจาก ร.3 พัน.3

ข่าว : ไทบ้าน  นิวส์ (พรพิพัฒน์  เพ็ชรสังหาร)

นครพนม – ร.3 พัน.3 เดินเท้าลงพื้นที่อุดหนุนร้านค้าชุมชนค่ายพระยอดเมืองขวาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ที่มีจำนวนลูกค้าลดลงในช่วงโควิด – 19 ระลอกที่ 3 แทนความห่วงใยจากกองทัพบก

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2564 ที่ค่ายพระยอดเมืองขวาง ตำบลกุรุคุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องด้วยสถานะการณ์การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด – 19 ซึ่งส่งผลกระทบกับผู้ประกอบร้านค้าชุมชนรอบค่ายพระยอดเมืองขวาง ลงพื้นที่เข้าให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้า              บริเวณชุมชนรอบค่าย ที่มียอดจำหน่ายลดลงทำให้ประสบภาวะขาดทุนโดยรับซื้อข้าวกล่อง จำนวน 100 กล่อง โดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องมนทุกๆสับดาห์ เพื่ออุดหนุนผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถจำหน่ายสินค้า ร้านอาหารได้มากขึ้น เพิ่มยอดขายโดยเฉพาะร้านอาหาร บรรเทาความเดือดร้อนที่มีจำนวนลูกค้าลดลงในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ นำไปสนับสนุนเป็นเมนูอาหารเสริมเพื่อนำมาให้กับน้องๆทหารกองประจำการภายในหน่วย เป็นการบำรุงขวัญกำลังใจ ในช่วงงดลาของน้องทหารกองประจำการ ให้ได้รับประทานอาหารรสชาติอร่อย เป็นการเพิ่มช่องทางการตลาด ให้สามารถขายได้เพิ่มขึ้นนอกจากนี้ยังได้หารือแนวทางกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในเรื่องของการดูแลช่องทางในการจำหน่าย ในช่วงวิกฤตโควิด -19 ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยจะได้หารือหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาดูแล ช่วยเหลือ หากประชาชน ร้องขอเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป ภาพ : ขอบคุณภาพจาก ร.3 พัน.3

ข่าว : ไทบ้าน  นิวส์ (พรพิพัฒน์  เพ็ชรสังหาร)

ศรีสะเกษ สุดอนาถยาย 84 ปีขา 2 ข้างบวมเป่งอยู่ตามลำพังไร้ผู้ดูแล ลูกชายเพียงคนเดียวทิ้งไปนานกว่า 20 ปีแล้ววอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 64  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ที่บ้านเลขที่ 82 หมู่ 7 บ้านโนนแดงน้อย ต.โพธิ์วงศ์ อ.ขุนหาญ  จ.ศรีสะเกษ มีหญิงชราคนหนึ่งอาศัยอยู่ตามลำพังมานานหลายสิบปีแล้ว สภาพความเป็นอยู่มี                    ความยากลำบากมาก  เนื่องจากว่า หญิงชราคนนี้ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้  ดังนั้น ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบตามที่อยู่ที่ได้รับแจ้ง  โดยมี น.ส.นิตชิรารัตน์  วันเฉลิม  อายุ  38 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 7 บ้านโนนแดงน้อย  ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กันนำผู้สื่อข่าวไปที่บ้านหลังดังกล่าว  ซึ่งเมื่อไปถึงพบว่า เป็นบ้านชั้นเดียวสร้างด้วยอิฐบล็อคหลังคามุงสังกะสี บริเวณหน้าบ้านมีเครื่องใช้สภาพเก่ามากอยู่จำนวนหนึ่ง หากมองจากภายหลังแทบจะไม่ทราบว่า ภายในบ้านมีคนอาศัยอยู่   ซึ่งเมื่อ น.ส.นิตชิรารัตน์  เปิดประตูเข้าไปในบ้านพบร่างของหญิงชราคนหนึ่ง  ทราบชื่อว่าคือ นางเรียม                         บุญทอง  อายุ 84 ปี เจ้าของบ้าน นอนอยู่บนแคร่ในมุ้งค่อนข้างเก่ามาก โดยอยู่ภายในบ้านที่มืด เมื่อเปิดหน้าต่างออก และเปิดไฟภายในห้อง จึงสามารถมองเห็นสภาพภายในบ้าน   ภายในห้องน้ำใกล้กันพบว่ามีไก่ 2 ตัวอยู่ในห้องน้ำ  มีข้าวของเครื่องใช้เก่ามาก หม้อหุงข้าวขนาดเล็กมีข้าวติดอยู่ก้นหม้อเล็กน้อย มีน้ำปลา 1 ขวดและมีถุงเกลือเหลือเกลืออยู่เล็กน้อย 1 ถุง ซึ่งคุณยายเรียม ได้ลุกขึ้นมานั่ง จึงพบว่า บริเวณขาทั้ง 2 ข้างบวมเป่ง สายตาของยายเรียมพร่ามัวมองแทบไม่เห็น และเมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปยกมือไหว้ ยายเรียมได้รับไหว้และพูดทักทายเป็นภาษาเขมร ซึ่งเป็นภาษาถิ่นของชาวบ้านโนนแดงน้อย  น.ส.นิตชิรารัตน์  วันเฉลิม  อายุ  38 ปี  เพื่อนบ้านผู้ใจบุญเล่าว่า  แต่ก่อนนี้คุณยายอยู่กับสามี ต่อมาสามีได้เสียชีวิต  มีลูกชาย 1 คน แต่ว่าได้ทิ้งยายไปนานประมาณ 20 ปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้บ้านหลังนี้จะเป็นกระท่อมหลังเล็กๆ ต่อมา นายอำเภอขุนหาญ  พร้อมด้วย กำนัน  และนายก อบต.โพธิ์วงศ์ เพิ่งมาทำบ้านหลังนี้ให้ เพราะยายจะเข้าห้องน้ำยากและเดินไม่ค่อยสะดวก โดยมาทำบ้านให้ประมาณ 3 – 4 ปีที่ผ่านมา คุณยายอยู่คนเดียวมาโดยตลอดตามสภาพ บางวันได้กินข้าว บางวันก็ไม่ได้กินข้าวเพราะแกหุงหาอาหารเองไม่ได้ บางทีก็มีเพื่อนบ้านเอาอาหารมาให้บ้าง ญาติพี่น้องของยายก็มีอยู่แต่ก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร นานๆครั้งถึงจะเข้ามาดูแล ทุกวันนี้ยายอยู่ตัวคนเดียว จะมีพยาบาล รพ.ขุนหาญคนหนึ่ง   อสม. และกำนัน ต.โพธิ์วงศ์ ที่แวะเวียนเข้ามาช่วยดูแล ส่วนมากแล้วจะนำเอาของเครื่องใช้เครื่องอุปโภคบริโภคอาหารมามอบให้กับยายทางด้าน นายสมพล   วรรณทอง  กำนัน ต.โพธิ์วงศ์  กล่าวว่า บ้านที่ยายเรียมได้อาศัยอยู่นี้ เป็นโครงการของ อ.ขุนหาญที่ได้จัดสร้างให้ ยายเรียมจะอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้เพียงลำพัง จะมีเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาทและเงินช่วยเหลือผู้พิการ เดือนละ 800 บาท เป็นค่าใช้จ่าย  โดยเมื่อช่วงปี 60 – 61 ตนได้พายายเรียมไปรักษาตาที่พร่ามัวที่ รพ.ศรีสะเกษ จึงทำให้สามารถมองเห็นได้  ขณะนี้จะมีเพื่อนบ้านใกล้เคียงคอยช่วยดูแล แต่สภาพค่อนข้างลำบากเพราะว่า ยายเรียมมีอาการป่วยหลายโรคช่วยเหลือตนเองไม่ได้มากนักต่อมาได้มี  น.ส.ปาริชาติ  อาจสำแดง  เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1                       อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ที่ได้รับทราบข่าวนี้  ได้นำอาหารจำนวนหนึ่งประกอบด้วย  นมกล่อง ปลากระป๋อง  น้ำดื่ม  ไข่ไก่  บะหมี่สำเร็จรูป มามอบให้กับยายเรียมเพื่อเป็นการช่วยเหลือ  ซึ่งยายเรียมได้นำเอานมกล่องขึ้นมาดื่มและกินขนมที่มีผู้ใจบุญนำเอามามอบให้อย่างเอร็ดอร่อย และอวยพรเป็นภาษาเขมรให้ผู้ที่นำเอาสิ่งของมามอบให้มีแต่ความสุขความเจริญผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า  จากสภาพที่น่าเวทนานี้  หากผู้ใจบุญชาวศรีสะเกษและชาวไทยทั่วประเทศ มีความประสงค์จะให้การช่วยเหลือยายเรียม หญิงชราผู้น่าสงสาร ขอเชิญติดต่อได้ที่ น.ส.นิตชิรารัตน์  วันเฉลิม                             บ้านเลขที่ 21 หมู่ 7 บ้านโนนแดงน้อย  ต.โพธิ์วงศ์ อ.ขุนหาญ  จ.ศรีสะเกษ โทร. 061 – 9174669  เพื่อจะได้ส่งต่อความช่วยเหลือให้กับคุณยายเรียม  บุญทอง ต่อไป

//////ภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ภูธรภาค5 วิสามัญมือปืนค้ายาบ้าตามหมายจับบนดอยสูงอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่นายสำราญ แสงสงค์ ข่าว

ภูธรภาค5 วิสามัญมือปืนค้ายาบ้าตามหมายจับบนดอยสูง25 มิถุนายน 2564 เวลา 1100 นนโยบายผู้บัญชาการภาค5ในพื้นที่ปลอดอาชญากรรมและผู้ร้ายและยาเสพติด ทางพลตำรวจตรี วีรชน บุญทวี ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค5 พร้อมคณะมาตรวจที่เกิดเหตุวิสามัญผู้ร้ายตามหมายจับศาลจังหวัดแพร่ ซึ่งให้ทำการจับกุมนายเอกภูมิ เครือแก้ว (เบริด) ตามหมายศาล 2 ฉบับ ฆ่าผู้อื่น และ มียาเสพติดในครอบครอง ทางสืบสวนภาค5 ร่วมกับตำรวจภูธรไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ สืบทราบว่านายนายเอกภูมิ เครือแก้ว (เบริด) บ้านเลขที่ 174/1 หมู่ที่ 4 บ้านน้ำชำ อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ มีหมายตามจับออกเมือวันที่ 23 กรกฏาคม 2563 คดีฆ่าผู้อื่น และคดียาเสพติด ตามหมายจับออกเมือวันที่ 28 กรกฏาคม 2563 และได้หนีมาหลบกลบดานอยู่ที่ สวนไม่มีเลขที่บ้านใหม่หนองบัว หมู่ที่ 10 ตำบลหนองบัว อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ และมีการสืบทราบว่า นายเอกภูมิ เครือแก้ว (เบริด) ได้รับเงินและรับงานเพื่อให้ฆ่าคนอีก ทางชุดสืบสวนจึงได้มาทำการดักรอทางออกที่สวนมะม่วงหลังหมู่บ้านตามที่สายลับแจ้ง ช่วงเวลาประมาณ 05.55 น นายเอกภูมิ เครือแก้ว (เบริด) ได้ขับมอเตอร์ไชค์สีน้ำเงินฟ้าลงมาตามถนนเลียบข้างสวนมะม่วงเพื่อจะไปส่งยาบ้าและ ไปลงมือฆ่าตามที่มีคนจ้างวาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ซุ่มอยู่ข้างทางได้เรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น แต่เจ้าตัวได้โดดลงรถมอเตอร์ไชค์แล้วยิงปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์มาตามเสียงโดยมีตำรวจดักอยู่ ส่วนทางตำรวจได้ทำการยิงสกัดเพื่อป้องกันตัวไป1 นัด โดนจุดสำคัญทำให้นายเอกภูมิ เครือแก้ว (เบริด)เสียชีวิตทันที ทางพลตำรวจตรี วีรชน บุญทวี ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค5 พร้อมคณะมาตรวจที่เกิดเหตุและได้ขึ้นไปตรวจบ้านพักพบนายจะเผอะ จะแย อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 101/ซ หมู่ที่ 9 ตำบลแม่คะ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และพบสิ่งผิดกฎหมาย ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก กระสูนปืนลูกซองขนาดเบอร์ 12 จำนวน 14 นัด ลูกกระสุนปืนขนาด9 มม จำนวน 15 นัด และยาบ้าจำนวนประมาณ 7,000 กว่าเม็ด อุปกรณ์เสพยาบ้าทางนายจะเผอะ จะแย บอกเจ้าหน้าที่ว่าเป็นของผู้ตายคือนายเอกภูมิ เครือแก้ว (เบริด) ซึ่งทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไชยปราการได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป