ต้อยทูเดย์ออนไลน์ Toytodayonline

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2565

ศรีสะเกษ รพ.สต.เฮลั่นขอบคุณหมอหนูอนุมัติให้โอนไปสังกัด อบจ.ได้แล้ว แกนนำประกาศลั่นจะให้การดูแลพี่น้องประชาชนที่เจ็บป่วยให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม 1 ตุลาคมเตรียมย้ายสังกัด ขณะที่ นายก อบจ.ศรีสะเกษเผย ไม่มีใครที่จะรู้ความต้องการในท้องถิ่นเท่ากับคนท้องถิ่นเอง ปัญหาเรื่องสุขภาพของพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษจะทำให้แก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น ถอยรถ EMS รับส่งผู้ป่วยรถใหม่ป้ายแดง จำนวน 2 คันพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยมาไว้ให้การบริการประชาชนชาวศรีสะเกษทันที


เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมศูนย์โอท็อป อบจ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีตัวแทนสมาชิกของชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ประเทศไทย) จ.ศรีสะเกษ (รพ.สต.) จำนวนประมาณ 80  คน นำโดย นายเกียรติคุณ ทวี ผอ.สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินีภูมิ             ซรอล ในฐานะประธานชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ประเทศไทย) จ.ศรีสะเกษ และนายพรชัย  ศรีปัตเนตร  ผอ.รพ.บ้านกุดโง้ง ตำบลโพนข่า  ได้พากันเดินทางมาพบกับ นายวิชิต  ไตรสรณกุล  นายก อบจ.ศรีสะเกษ เพื่อแสดงความขอบคุณที่ได้ให้การสนับสนุนในการถ่ายโอนภาระกิจ รพ.สต.ไปสังกัด อบจ.ศรีสะเกษ พร้อมทั้งพากันชูป้ายข้อความว่า “ขอขอบคุณท่านอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายก รมต.และ รมว.สาธารณสุข ที่อนุมัติให้มีการตัดโอนตำแหน่ง ขรก.และ ลจ.ถ่ายโอน สอน.และ รพ.สต. จำนวน 3,366 แห่ง 21,899 อัตรา ผ่าน อกพ.กระทรวงฯ 29 เม.ย.65”  “ขอขอบคุณท่าน สาธิต  ปิตุเดชะ รมช.สธ.” “ขอขอบคุณ ปลัด สธ.และคณะกรรมการ อกพ.กระทรวงฯ” “ขอขอบคุณสำนักงบฯที่อนุมัติให้โยกเงินเดือน” “ขอขอบคุณ นพ.สสจ.ทุกจังหวัดที่เห็นชอบและอนุมัติให้ตัดโอนตำแหน่ง ขรก.และ ลจ.” พร้อมทั้งได้มีการตะโกนร้องเสียงดังก้องห้องประชุมว่า “ศรีสะเกษ ขอบคุณ”  เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ นายอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายก รมต.และ รมว.สาธารณสุข และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน  ขณะเดียวกัน อบจ.ศรีสะเกษ ได้มีการส่งมอบรถ EMS รับส่งผู้ป่วยรถใหม่ป้ายแดง จำนวน 2 คันพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยครบชุด มาไว้ให้การบริการประชาชนชาวศรีสะเกษ เพื่อเตรียมรับการถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต.มาสังกัด อบจ.ศรีสะเกษ บรรยากาศเป็นไปอย่างสดชื่นคึกคักมากนายเกียรติคุณ ทวี ผอ.สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินีภูมิซรอล ในฐานะประธานชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ประเทศไทย) จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  วันนี้เราก็ได้จัดกิจกรรมอีกครั้งหนึ่งเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ท่าน นายกอบจ. ศรีสะเกษที่สนับสนุนให้มีการถ่ายโอนในวันนี้และทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนให้มีการถ่ายโอน รพ.ต.ไปสังกัด อบจ.ศรีสะเกษตามกฎหมาย ก็ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ และขอฝากไปถึงท่านรัฐมนตรีและท่าน สว.ที่ยังเป็นห่วงพวกเราว่า หากไปอยู่ อบจ.แล้วจะทำงานไม่ได้ วันนี้ก็ได้ยินชัดเจนจากท่าน นายกอบจ. ศรีสะเกษแล้วว่า ทางอบจ.ศรีสะเกษจะให้การสนับสนุนการทำงานของพวกเราอย่างเต็มที่เพื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งต้องขอกราบเรียนไปถึงทุกภาคส่วนที่ยังเป็นห่วงพวกเราว่า พวกเราจะทำงานไม่ได้นั้น ตนขอยืนยันว่าพวกตนจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่และจะให้ดียิ่งขึ้นมากกว่าเดิม เพราะว่าเราทำงานอยู่กับกระทรวงสาธารณสุขมาระยะหนึ่งแล้ว จริง ๆก็ดีอยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งในส่วนที่มาอยู่ท้องถิ่น ตนคิดว่าในเรื่องของการทำงานน่าจะตอบสนองเรื่องสุขภาพของท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมน.ส.สุภัทร ศรีสะอาด อายุ 45 ปี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ.สต.บ้านประสาทเยอเหนือ อ.ไพรบึง          จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนซึ่งเป็นตัวแทนพยาบาลมีความพร้อมมากเพราะว่าการที่เราได้ย้ายไปอยู่ อบจ.มีการกำหนดตำแหน่งตัวบุคลากรได้เลย งานของเราก็จะมีบุคลากรแบ่งเป็นกลุ่มงานซึ่งจะทำให้เราได้แสดงศักยภาพหรือความสามารถของพยาบาลในการดูแลประชาชนที่เจ็บป่วยได้เป็นอย่างดีและเต็มที่ ตนขอฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษว่า ขอให้มั่นใจในตัวของพวกเราว่า ไม่ว่าจะสังกัดกระทรวงสาธารณสุขหรืออยู่ที่ อบจ.เราจะสามารถดูแลพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดีและจะทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปนายวิชิต  ไตรสรณกุล  นายก อบจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  พวกเราเดินกันมาจนถึง ณ วันนี้ในเรื่องการถ่ายโอนรพ.สต.อุปสรรคก็มีบ้าง แต่ถ้านับถึงวันนี้ก็ค่อนข้างที่จะสำเร็จเข้าไป 90 กว่าเปอร์เซ็นต์แล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นมาอีก แล้วพอถึงช่วงเดือนสิงหาคม กันยายน สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาเรื่องงบประมาณพอถึงเวลานั้นก็จะถึง 100% วันที่ 1 ตุลาคม ก็เตรียมมาอยู่ในสังกัดของ อบจ. ศรีสะเกษ ตนขอเรียนว่า ตาม รพ.สต.ต่าง ๆโดยเฉพาะบุคลากรที่ทำงานอยู่ใน รพ.สต ก็ล้วนคนอยู่ในพื้นที่ เพราะฉะนั้นเมื่อรพ.สต.มาอยู่ในท้องถิ่นท่านก็คงจะอยู่ในบ้านของท่านอยู่แล้ว หรือหากว่าต้องการเปลี่ยนที่ทำงานใหม่                  ก็สามารถสับเปลี่ยนกันในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษได้ไม่ต้องไปทำงานไกลบ้าน แล้วการทำงานอย่างที่ตนเคยบอกไปแล้วคือ ไม่มีใครที่จะรู้ความต้องการในท้องถิ่นเท่ากับคนท้องถิ่นเอง เพียงแต่ว่าการอยู่ในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขเขารู้ว่าประชาชนต้องการอะไร รู้ว่า รพ.สต.ขาดอะไรจะทำอย่างไรที่จะดูแลประชาชนให้ดีที่สุด แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปจัดการเองได้ ก็จะต้องรองบประมาณจากส่วนกลาง รออนุมัติ อนุญาตจากผู้บังคับบัญชาส่วนกลาง แต่ถ้าอยู่ที่ อบจ.ศรีสะเกษ หากต้องการอะไรท่านรู้ ผมรู้ มันไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเงินก็ใช้เงินอยู่ที่นี่ ทำแผนปฏิบัติการการทำงานอะไรต่าง ๆ ก็อยู่ที่นี่ทั้งหมด ไม่ต้องไปขอใครอยู่ใน                           จ.ศรีสะเกษของเราเองเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาก็แค่เดินเข้ามาพูดคุยกันก็จบไม่ต้องมาประท้วงไม่ต้องเสียค่ารถไปที่กระทรวงเหมือนที่ทำกันอยู่ในทุกวันนี้ นั่งรถโดยสารมาก็เจอตนแล้ว นั่งสามล้อปั่นมาก็เจอตน เพราะว่าตนอยู่ที่นี่ตลอดปัญหาก็จะได้รับการแก้ไข เพราะว่าเราอยู่ใกล้ชิดกันรู้ว่าเป็นอย่างไรมันก็จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องปัญหาสุขภาพของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษของเราก็จะทำให้ง่ายขึ้น  ตนขอฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษและบุคลากร  รพ.สต.ทุกคนว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เราก็ได้พูดคุยกันไปหลายครั้งแล้วทุกคนก็เข้าใจอยากจะมาสังกัด อบจ.ศรีสะเกษซึ่งในส่วนนี้คนที่ทำงานอยู่ใน รพ.สต.ก็อยู่ใกล้แค่นี้เอง เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษไม่ต้องห่วงว่าใครจะทำอะไรยังไงล้วนแต่เป็นเรื่องที่เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษทั้งสิ้น ไม่ต้องห่วงหรือมากังวล   เพราะว่าประชาชนชาวศรีสะเกษเลือกตนมาด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 400,000 - 500,000 คะแนน ตนต้องทำงานให้พี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษทุกคนให้ดีที่สุดและอย่างเต็มที่อยู่แล้วภาพ / ข่าว   ศิริเกษ   หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ นอ.โพธิ์ศรีสุวรรณมอบพันธุ์ผัก 10 ชนิดให้ชาวบ้านปลูกพืชผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร

             เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมที่ว่าการ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ นายสุวรรณ เนตรเนติกุล นายอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ ประธานกรรมการศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ (ศจพ.อ.) เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยนางขวัญตา  คิดดี ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นางสาวนงค์เยาว์ พรหมทา พัฒนาการอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ (เลขานุการ ศจพ.อ.) นายนิคม ชาลี ปลัดอําเภอฝ่ายความมั่นคง  /เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน และ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลผือใหญ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลผือใหญ่ ได้ลงพื้นที่ติดตามสนับสนุน เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจครัวเรือนยากจนกลุ่มเป้าหมายจากระบบ TPMAP                          นายอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ กล่าวต่อไปว่า ในการไปเยี่ยมเยียนครั้งนี้  ตนได้มอบเมล็ดพันธุ์ผัก จำนวน 10 ชนิด จากศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ(ศจพอ) ให้แก่ประชาชนเพื่อสนับสนุนการปลูกพืชผักสวนครัว สร้างความมั่งคงทางด้านอาหาร ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ สร้างตู้เย็นในครัวเรือน โดยยึดหลักปฏิบัติตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอพียง เกิดการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันในตนเองและครอบครัว ยกระดับคุณภาพชีวิต จำนวน 9 ครัวเรือน  ซึ่งตกเกณฑ์รายได้ต่ำกว่า 38,000 บาท/คน/ปี และได้รับการสนับสนุนวัสดุสาธิตอาชีพ(เลี้ยงกบ)ตามโครงการขยายผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตครัวเรือนยากจนรายได้เฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์ จปฐ. แล้ว พร้อมทั้งได้มอบผ้าอ้อมสำเร็จรูปแก่ผู้ป่วยติดเตียงซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 3 ราย ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

คุมประพฤติจังหวัดนครสวรรค์ จัดกิจกรรมค่ายแก้ไขฟื้นฟูผู้ถูกคุมความประพฤติแบบเข้มข้นฐานความผิดขับรถขณะมาสุรา

วันนี้ (30 เมษายน 2565 ) เวลา 09.00 น.  นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต : อธิบดีกรมคุมประพฤติ ประธานพิธีเปิดโครงการลดการกระทำผิดฐานขับรถขณะเมาสุรา เพื่อสร้างความ ปลอดภัยบนท้องถนน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 กิจกรรมค่ายแก้ไขฟื้นฟูผู้ถูกคุมความประพฤติแบบเข้มข้นฐานความผิดขับรถขณะมาสุรา โดยมีนายวราวุธ คันธาเวช  ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครสวรรค์ ณ ห้องจัดประชุม โรงแรมไม้หอมรีสอร์ท จังหวัดนครสวรรค์ โดยการจัดโครงการในครั้งนี้ มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ถูกคุมความประพฤติ คดีขับรถขณะเมาสุราที่ได้รับการจำแนกว่า มีความเสี่ยงสูงและปานกลาง ต่อการหวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก จำนวน 20 คน โดยหลักสูตรเป็นการบรรยาย การสาธิต การฝึกปฏิบัติ การฝึกทักษะและการเรียนรู้เชิงประสบการณ์  ซึ่งมีระยะเวลาการดำเนินการจำนวน 3 วัน 2 คืน ระหว่างวันที่ 29 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2565 ทั้งนี้ การจัดกิจกรรม เพื่อสร้างจิตสำนึกในเรื่องความรับผิดชอบต่อผลการกระทำของตนเอง บุคคลอื่น และสังคม ให้ผู้ถูกคุมความประพฤติ ลด ละ เลิก ในการดื่มสุรา ในการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน!!!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ ภูธร​0619782952!!!!!!! 

ผบช.ภ.6 มอบชุดอุปกรณ์​กีฬาและถังแช่น้ำดื่มให้ รร.ในพื้นที่

วันนี้ (29 เม.ย.65) เวลา 15.30 น.พล.ต.ท.อัคราเดช  พิมลศรีผบช.ภ.6เป็นประธานมอบชุดอุปกรณ์กีฬาและถังแช่น้ำดื่มให้กับโรงเรียนในพื้นที่ อ.พรหมพิราม จว.พิษณุโลก รวมจำนวน 18 โรงเรียนณ สนามฟุตบอลตำรวจภูธรภาค 6 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จว.พิษณุโลก!!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ ภูธร​0619782952!!!!! 

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2565

"น้องยาย่า" กลับมาแล้วอบจ.ร่วม คณะสัตวแพทย์จุฬาฯ เตรียมทำศูนย์วิจัย ศูนย์เรียนรู้ บึงบอระเพ็ด น้องยาย่าหายแล้ว ลงสู่อะควาเรี่ยมอีกครั้ง

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 29 เมษายน 2565 ณ ห้องประชุมศูนย์สั่งการและควบคุมการปฏิบัติองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์  พร้อมด้วยนายเชิดพันธ์ มาศรี  นางสุดฤทัย เศรษฐนันท์ รองนายก อบจ.นครสวรรค์ นายสันติ จันทร์เผิบ สิบเอกพิทยา นาคกุญชร รองปลัด อบจ.นครสวรรค์ และ ข้าราชการ พนักงานจ้าง กองการท่องเที่ยวและกีฬา ให้การต้อนรับ คณะสัตว์แพทย์มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ นำโดย ศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ พร้อมทีมงาน ที่ได้เดินทางมาติดตามดูผลการรักษา "น้องยาย่า" (ปลากระเบน) ที่มีแผลติดเชื้อเรื้อรังและได้รับการรักษาเรียบร้อย จากทีมคณะสัตวแพทย์วิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ นอกจากนี้ยังได้มีการพูดคุยปรึกษาหารือถึงเรื่อง การจัดตั้งศูนย์วิจัยสัตว์น้ำของอบจ.นครสวรรค์ โดยจะมีการประสานงานความร่วมมือทางด้านวิชาการ จากทีมคณะสัตวแพทย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมทั้งจะจัดทำเป็นศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตสัตว์น้ำจืดในบึงบอระเพ็ด อันประกอบด้วย จระเข้ ปลาเสือตอ ปลากระเบนน้ำจืด และรวมไปถึงนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร ซึ่งคาดว่าจะสูญพันธุ์ไปแล้วหลังจากนั้น นายกอบจ.พร้อมทีมงานผู้บริหาร และ คณะสัตว์แพทย์มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ได้เดินทางมาอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ด เพื่อเคลื่อนย้าย "น้องยาย่า" จากบ่อพักกลับคืนสู่บ่อแสดงพันธุ์ปลาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความน่ารักของ  "น้องยาย่า" ต่อไป!!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ ภูธร​0619782952!!!!!! 

นายก อบจ. นครสวรรค์ ลงพื้นที่สำรวจวางแผนจัดการระบบเส้นทางน้ำ ร่วมกับ นายก ทต.บางประมุง และ Mobile Team กองช่าง อบจ.นครสวรรค์

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 29 เมษายน 2565 พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ. นครสวรรค์ ลงพื้นที่สำรวจวางแผนจัดการระบบเส้นทางน้ำ ร่วมกับ นายอติเทพ ธัญญกสิกล นายก ทต.บางประมุง และ นายธนิสร กุลชา รองนายก ทต.บางประมุง  พร้อม Mobile Team กองช่าง อบจ.นครสวรรค์ ในเขตพื้นที่ ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ และ​ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ดังนี้จุดที่ 1 อ่างเก็บน้ำบ้านผาแดง หมู่ 15 ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ พื้นที่จุดนี้อยู่ระหว่างทำการขุดให้ลึกลงไปจากเดิมอีก 3 เมตร เพื่อให้รองรับน้ำได้เพิ่มมากขึ้น พื้นที่ประมาณ 38,000 ตารางเมตร ความจุประมาณ​190,000 คิว คิดความจุที่ความลึก 5 เมตร  ลึกรวม 6.4 เมตร โดยเตรียมวางท่อระบายน้ำทั้งหมด 4 จุด (จุดละ 12 ท่อน รวม 48 ท่อน) พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ของสำนักปริวาสกรรม วัดศรีอุทุมพร(หลวงพ่อจ้อย) ที่อุทิศเพื่อสาธารณประโยชน์ ปริมาณน้ำที่กักเก็บได้มากกว่าอ่างเก็บน้ำโคกหม้อ ซึ่งชาวบ้านหลายหมู่บ้านและเกษตรกรในพื้นที่จะได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก จุดที่ 2 อ่างเก็บน้ำหลวงพ่อจ้อย จุดนี้เป็นจุดรับน้ำจากห้วยหินลับ คลองตาวัด คลองตาแวน และเป็นเริ่มต้นทางน้ำที่จะไหลต่อไปยังอำเภอโกรกพระ ทั้งนี้เพื่อดูเส้นทางน้ำในฤดูน้ำหลากที่จะไหลลงมาจากเขาหลวง จากอำเภอลาดยาวและจากพื้นที่ต่าง ๆ พร้อมทั้งเตรียมการวางแผนและวางขั้นตอนเพื่อจัดระบบน้ำให้ไหลลื่นโดยไม่ติดขัด รวมทั้งจะทำแหล่งกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้นอีก อันเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำล้น ปัญหาน้ำแล้งจุดที่ 3 คลองไส้ไก่ ม.8 ต.บางประมุง  จุดนี้ห่างจากคลองตาแวน 10 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ดินสาธารณะที่มีชาวบ้านเข้าไปทำการเกษตร ควรจะต้องมีแหล่งกักเก็บน้ำ จึงได้มีข้อเสนอแนะให้ชุมชนในเส้นทางน้ำทุกหมู่บ้านปรึกษาหารือกัน พร้อมทั้งควรมีคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ เพื่อการจัดสรรน้ำ และจะได้เตรียมวางแผนหาพื้นที่สาธารณะสำหรับขุดบ่อกักเก็บน้ำขนาดใหญ่เพิ่มเติมต่อไปจุดที่ 4 บริเวณจุดบรรจบรวมเขตพื้นที่ ต.ศาลาแดง  ต.นากลาง ต.บางประมุง อ.โกรกพระและ ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ ที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งเดิมเส้นทางนี้มีลำคลองเลียบมาตามถนน เนื่องจากเกิดภาวะน้ำแล้งเป็นเวลานาน จึงมีการรุกล้ำพื้นที่เข้ามาทำการเกษตร  ลำคลองเส้นนี้จึงหายไป รวมระยะทางยาวกว่า 9 กิโลเมตร จุดที่ 5 ห่างจากจุดที่ 4 ประมาณ  1 กิโลเมตร จุดนี้มีคลองน้ำขนาดเล็กข้างถนน แต่ไม่มีท่อลอด นายก อบจ.จึงได้มอบหมายให้กองช่างเตรียมการประสานงานเพื่อวางท่อลอด ขุดลอกวัชพืช ให้น้ำไหลผ่านได้สะดวกขึ้น และจะขุดลอกคลองให้เชื่อมต่อกันตลอดเส้นทางจุดที่ 6 สะพานหน้าเขาศาลาแดง ห่างจากจุดที่ 5 ประมาณ 500 เมตร ที่จุดนี้พบว่าเป็นเส้นทางการระบายน้ำจากเขาศาลาแดง ที่ไหลหลากลงมาในหน้าฝน และมีเส้นทางน้ำไหลต่อไปจนถึงบึงกระจังงาม และไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่ตลาด อ.โกรกพระ จุดที่ 7 คลองชลประทาน ต.เนินศาลา อ.โกรกพระ จุดนี้มีเส้นทางน้ำเป็นลำคลองอย่างดีมีปูพื้นซีเมนต์ตลอดแนว เป็นคลองน้ำที่ไหลมาจากเขื่อนวังร่มเกล้าไปถึงบ้านศาลาแดง อ.โกรกพระ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากชลประทาน จ.อุทัยธานี จุดที่ 8 เขื่อนวังร่มเกล้า จ.อุทัยธานี จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางน้ำซึ่งเป็นเขตติดต่อระหว่างจังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดอุทัยธานี รวมทั้งเป็นจุดต้นทางน้ำคลองชลประทานที่ไหลไปสู่ อ.โกรกพระจากการที่ นายก อบจ.นครสวรรค์ นำคณะลงพื้นที่ไปยังจุดต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงที่สิ้นสุดทางน้ำนั้น เพื่อจะได้วางแผนร่วมกันกับ อบต. ในการวางระบบน้ำให้ไหลลื่นโดยไม่ติดขัด และเพื่อวางแผนเตรียมการจัดหาพื้นที่สาธารณะในการขุดบ่อเก็บน้ำเพิ่มเติมสำหรับช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากขณะนี้ใกล้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว โดยเร่งสั่งการให้ Mobile Team กองช่าง อบจ.นครสวรรค์ เร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด!!!!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ ภูธร​0619782952!!!!! 

การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ผ่านระบบโลจิสติกส์ ในพื้นที่ภาคเหนือ

ตามที่ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ บูรณาการความร่วมมือในการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ผ่านระบบโลจิสติกส์ ตามนโยบายของรัฐบาล     ในการยกระดับการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือแบบเบ็ดเสร็จ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน, จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดเชียงราย และจังหวัดพะเยา นั้น ทั้งนี้ ในห้วงที่ผ่านมา พลโท บุญยืน อินกว่าง แม่ทัพน้อยที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ร่วมกับ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5, สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5, ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดเชียงใหม่, สำนักงานศุลกากรภาคที่ 3, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, กองบังคับการสกัดกั้นและลำเลียง กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ ดำเนินการตรวจสอบสถานประกอบการ และการดำเนินการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ โลจิสติกส์ เพื่อตรวจหายาเสพติดที่อาจซุกซ่อนสินค้าและพัสดุภัณฑ์ เป็นการเพิ่มความเข้มงวดและการยกระดับในการสกัดกั้นขบวนการลำเลียงยาเสพติดในระบบโลจิสติกส์ ตามนโยบายของทางรัฐบาล เนื่องจากพบว่าเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดนั้น มีความพยายามที่จะเปลี่ยนรูปแบบการลำเลียงจากทางรถยนต์ส่วนบุคคล รถโดยสารประจำทาง รถไฟหรือเครื่องบิน มาเป็นการใช้ระบบโลจิสติกส์แทน เพื่อหลบเลี่ยงการถูกจับกุมจากเจ้าหน้าที่ โดยในห้วงต่อไปจะมีดำเนินการจัดทำ MOU การขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ในระบบโลจิสติกส์ ระหว่างส่วนราชการและภาคเอกชนต่อไป สำหรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามข้างต้นนั้น เป็นการดำเนินการของเจ้าพนักงานผู้ซึ่งมีอำนาจหน้าที่อยู่ภายในขอบเขตของกฎหมายและประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2543) เรื่อง มาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ โดยที่สถานประกอบการประเภทกิจการขนส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์หรือโลจิกติกส์ดังกล่าว จัดเป็นสถานประกอบการตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี (พ.ศ. 2543) และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2558) เรื่อง กําหนดประเภทสถานประกอบการที่อยู่ภายใต้บังคับของมาตรการป้องกัน และปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ การปฏิบัติงานนี้เป็นการแสวงหาความร่วมมือ การควบคุม สอดส่องดูแล ผู้ที่เกี่ยวข้องในกิจการขนส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์ เพื่อไม่ให้สถานประกอบการประเภทกิจการขนส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์ ถูกใช้เป็นช่องทางในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทุกชนิด อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเตือนให้ทุกภาคส่วนช่วยกันป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ส่งผลกระทบโดยรวมต่อประเทศไทย ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือมีเบาะแสข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ขอความกรุณาได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในการปราบปรามและจับกุม อย่างเป็นรูปธรรมตามกฎหมาย อีกทั้งหากพี่น้องประชาชนมีความประสงค์จะส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยตรง ให้กับ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 สามารถส่งข้อมูลผ่านระบบ Applications Line ชื่อ “สายตรงแม่ทัพภาคที่ 3” ID Line : ISOC3 เพื่อรับทราบข้อมูลและนำไปสู่การปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย สร้างความมั่นคงให้สังคมไทยสืบไปคณะบรรณาธิการข่าว กองทัพภาคที่ 329 เมษายน 2565

ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก ทยอยกลับภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่อง (28 เมษายน 2565)

ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์การสู้รบในประเทศเมียนมา ในพื้นที่ตรงข้ามจังหวัดตาก ของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2565 เป็นต้นมา ได้เกิดการปะทะกันหลายครั้ง ระหว่างทหารเมียนมา กับ กองกำลังชนกลุ่มน้อยเชื้อสายกะเหรี่ยง/กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ในพื้นที่อำเภอเมียวดี และอำเภอวาเล่ย์ใหม่ จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ด้านตรงข้ามของอำเภอพบพระ และอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ทำให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ได้อพยพข้ามมายังฝั่งไทย นั้นในการนี้ พลโท อภิเชษฐ์  ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้ กองกำลังนเรศวร รับผิดชอบอำนวยการดูแล ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ร่วมกับศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก ให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ในพื้นที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ บ้านเซอทะ, บ้านหนองหลวง, บ้านเลตองคุ และบ้านไม้ระยองคี โดยได้ดำเนินการตามหลักมนุษยธรรม มีรายละเอียดดังนี้ 1. ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก, จังหวัดตาก, กองกำลังนเรศวร และ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมดูแล ความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐานในการดำรงชีพ โดยมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ตามหลักมนุษยธรรม2. จัดแพทย์ พยาบาล จากกระทรวงสาธารณสุข เข้าดูแลและให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้เจ็บป่วยในพื้นที่3. กองกำลังนเรศวร จัดกำลังพล และ ยุทโธปกรณ์ ในการดูแลรักษาความปลอดภัย สถานที่พักพิงของ        ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในพื้นที่4. กองกำลังนเรศวร ได้เพิ่มมาตรการลาดตระเวนเฝ้าตรวจพื้นที่ ตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง ด้วยจักรยานยนต์ทางยุทธวิธี, การเดินเท้า, ทางเรือ และขี่ม้าลาดตระเวนตามแนวชายแดน ปัจจุบัน (28 เมษายน 2565 เวลา 18.00 น.) สถานการณ์ปะทะภายในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา  ได้เริ่มคลี่คลายลงตามลำดับ ผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) ได้ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยความสมัครใจ ยังคงเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) เพียง 1,366 คน ที่ยังรอการเดินทางกลับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาในโอกาสต่อไป ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า         การบูรณาการกำลังป้องกันชายแดนเพื่อปกป้องอธิปไตย และพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติ จะได้ดำเนินการอย่างเข้มข้น เพื่อให้พี่น้องคนไทยทุกคนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งสร้างความมั่นคงให้ประเทศชาติสืบไปคณะบรรณาธิการข่าว กองทัพภาคที่ 329 เมษายน 2565

กิจกรรม Army Chef กองทัพภาคที่ 3 ครั้งที่ 2 ประจำปี 2565

ตามที่ กองทัพภาคที่ 3 ได้ริเริ่มจัดกิจกรรม Army Chef กองทัพภาคที่ 3 ครั้งที่ 2 ประจำปี 2565 ตามนโยบายของกองทัพบก ภายใต้แนวความคิด “ครอบครัวกองทัพบก ประกอบอาหารอร่อย โภชนาการดี มีความพอเพียง” มาประกอบอาหารพื้นบ้านภาคเหนือแบบเรียบง่าย ปรุงสุก ใหม่ สด สะอาด อุดมไปด้วยโภชนาการ มีความอร่อย ราคาประหยัด และมีความพอเพียง บนรถครัวสนามของกองทัพบก สำหรับมอบให้กับพี่น้องประชาชนในยามเกิดภัยพิบัติ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้เกิดขึ้น โดยได้เชิญข้าราชการ, ครอบครัว, นักศึกษาวิชาทหาร และทหารกองประจำการที่เป็นสุดยอดฝีมือพ่อครัว หน่วยละ 3 นาย จากทั่วภาคเหนือใน 15 หน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 มาฝึกฝนและแข่งขันพัฒนาฝีมือ ด้วยการประกอบอาหารเลิศรส ในวันที่ 28 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ณ โครงการทหารพันธุ์ดี กองพลพัฒนาที่ 3 เกษตรเขาฟ้า ค่ายสมเด็จ  พระบรมไตรโลกนาถ อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก นั้น สำหรับผลการแข่งขันฯ ในครั้งนี้ ได้แก่   1) รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ มณฑลทหารบกที่ 32 ในรายการอาหาร (เมนู) : มัจฉาอาลัมภางค์   2) รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ มณฑลทหารบกที่ 38 ในรายการอาหาร (เมนู) : ปลาใต้น้ำ (มัจฉาหลงคงคา)   3) รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ กองพลพัฒนาที่ 3 ในรายการอาหาร (เมนู) : ปลานิลซอสเขียวหวาน ในการนี้ กองทัพภาคที่ 3 ขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนทุกท่านที่มีความสนใจ สามารถเรียนรู้ การประกอบอาหารตามแบบ Army Chef กองทัพภาคที่ 3 ครั้งที่ 2 เพื่อปรุงรับประทานเองที่บ้านได้ ในยามวิกฤตโรคโควิด-19 ซึ่งมีรายการอาหาร (เมนู) เพื่อการเรียนรู้ มากกว่า 40 รายการ โดยสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางเพจ “Facebook ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3” หรือ ช่องทาง YouTube “ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 3 ปี 2020” ต่อไป จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า กองทัพบก โดย กองทัพภาคที่ 3 พร้อมที่จะเคียงข้างพี่น้องประชาชน ในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในยาม    ภัยพิบัติในทุกมิติ ให้พ้นจากวิกฤตการณ์ ในทุกโอกาส พร้อมที่จะทำให้สังคมไทยกลับมาเข้มแข็งและประเทศเดินหน้าต่อไปในอนาคตต่อไป คณะบรรณาธิการข่าว กองทัพภาคที่ 329 เมษายน 2565

จังหวัดนครสวรรค์ จัดพิธีมอบเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2566

วันที่ 28 มีนาคม 2567 ที่ห้องรับรอง 302 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นปร...