อลังการงานประกวดการอนุรักษ์พระบูชา พระเครื่อง และเหรียญคณาจารย์ทั่วประเทศ เมืองเพชรบูรณ์ จัดเป็นครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 21-22 ตุลาคม 2566 มีแขกผู้ใหญ่ให้การอนุเคราะห์สนับสนุนเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

เมื่อ เวลา 10.00 น. วันที่ 22 ตุลาคม 2566 นายสุเมธ ธีรนิติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน มหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระบูชา พระเครื่อง และเหรียญคณาจารย์ทั่วประเทศ ณ หอประชุมเพชร โรงเรียนเพชรพิทยาคม อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี ดร.ดิเรก ถึงฝั่ง อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และอดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนนทบุรี เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ดร.ศุภชัย คล่องขยัน ประธานกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสำหรับสถานพินิจ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานจัดงาน นายนิกรม หาญยากรณ์ หรือบอย วิเชียร ประธานชมรมพระเครื่องเมืองเพชรบูรณ์ เป็นประธานดำเนินงาน และกล่าวรายงาน มีพล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ นายสมาน บุญเพ็ญ หรืออาจารย์สมาน คลองสาม อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย คนที่ 7 พร้อมด้วยนางลัดดาวัลย์ ปั่นเงิน ผู้อำนวยการสถานพินิจเด็กและเยาวชนจังหวัดเพชรบูรณ์ ดร.วิศัลย์ โฆษิตานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ดร. ประทิน นาคสำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเสดียง และคณะกรรมการผู้บริหารสมาคมฯ และชมรมพระเครื่องทั่วประเทศเข้าร่วมงานจำนวนมาก    สำหรับการจัดงานมหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระบูชาพระเครื่อง และเหรียญคณาจารย์ ทั่วประเทศในครั้งนี้ วัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมเกี่ยวกับพระเครื่อง พระบูชา ของจังหวัดเพชรบูรณ์ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เพื่อสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลของชมรมพระเครื่องเมืองเพชรบูรณ์ เพื่อสนับสนุนโครงการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสำหรับสถานพินิจจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมทั้งเป็นทุนการศึกษาให้กับนักศึกษา/นักเรียนที่ด้อยโอกาส และเพื่อสนับสนุน ส่งเสริม การท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งการจัดงานการประกวดในครั้งนี้มีรายการพระเครื่องที่บรรจุเข้าประกวดถึง 45 โต๊ะ จำนวน 1,620 รายการ มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 8,000 คน โดยคาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนเข้ามาในจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 10 ล้านบาท และสำหรับการประกวดพระในครั้งนี้ “บ้านพระเครื่อง”จากจังหวัดพิษณุโลกคว้ารางวัลชนะเลิศไปเพียงผู้เดียวทั้ง 3 รายการ รับเงินรางวัลไป จำนวน 6 หมื่นบาท และรายได้ในการจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งยังไม่หักค่าใช้จ่ายประกอบด้วยค่าบัตรส่งพระ 1,005,000 บาท, ยอดจากการประมูลพระ 982,000 บาท, มียอดผู้บริจาค และสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนจำนวน 507,000 บาท และแผงจำหน่ายพระหรือแผงจรยุทธเป็นเงินจำนวน 300,300 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,794,300 บาท

ข่าว-ชุลีพร ตาลสุข  รอบรั้วภูธร