นครสวรรค์​ ประชาชน​เดินทางกลับ​ ต้องเปิดช่องทางพิเศษระบายรถทะลักกลับเข้ากรุงเทพฯ​

เส้นทางสายหลักภาคเหนือมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานครปริมาณรถหนาแน่น  ในขณะที่จังหวัดนครสวรรค์ยังใช้มาตรการเปิดช่องทางพิเศษนับ 10 กิโลเมตรเพื่อช่วยระบายรถการจราจรบนถนนเส้นสายหลักเข้าสู่กรุงเทพมหานครยังมีประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางกันอย่างต่อเนื่อง  ล่าสุดช่วงบ่ายที่ผ่านมา

โดยเฉพาะทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก ช่วงแยกเข้าสู่ทางเลี่ยงเมือง มีปริมาณรถเต็มพื้นผิวการจราจรบางช่วงเวลารถสามารถเคลื่อนตัวได้อย่างช้าๆสลับกับหยุดนิ่งมีรถติดสะสมท้ายแถวยาวกว่า5กิโลเมตร  เนื่องจากมีรถบางส่วนเลือกที่จะใช้เส้นทางบริเวณดังกล่าวเลี้ยวขวา เข้าถนนเลี่ยงเมืองหมายเลข 122 เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรที่แออัดในตัวเมืองนครสวรรค์  ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคอยอำนวยความสะดวกตามจุดกลับรถต่างๆ เพื่อระบายรถให้คล่องตัวขึ้น  ส่วนบริเวณแยกเดชาติวงศ์ปริมาณรถก็ยังคงหนาแน่นแต่และติดขัด  เจ้าหน้าที่ยังคงเปิดสะพานเดชาติวงศ์กลางเพื่อช่วยระบายรถในขณะที่เส้นทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์หมายเลข 122 ยาวไปจนถึงจุดรอยต่อกับทางหลวงหมายเลข 1 นั้น พบว่าถนนทุกเลนต่างเต็มไปด้วยรถเต็มผิวจราจรของผู้ที่เดินทางกลับเข้ากรุงเทพด้วยเช่นกัน จนทางทางเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการเปิดช่องทางพิเศษบริเวณหลักกิโลเมตร 328-321 ตั้งแต่บริเวณเขาเขียวยาวไปจนถึงเขต อ.พยุหะคีรี  เป็นระยะทางนับ 10 กิโลเมตร  เพื่อระบายรถที่สะสมมีเพิ่มอีก 1 ช่องทาง

!!!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ภูธร​  0619525644!!!!!! 

นายอำเภอเก้าเลี้ยว​ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตาม และตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามจุดตรวจต่าง​ ๆ​ ของอำเภอเก้าเลี้ยว​ ​

อำเภอเก้าเลี้ยว​ เมื่อเวลา​ 18.00​ นาฬิกา นายรัฐพล​ ธุระพันธุ์​  นายอำเภอเก้าเลี้ยว​ พร้อมด้วย​ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กาชาดจังหวัดนครสวรรค์ ปฏิบัติหน้าที่อำเภอเก้าเลี้ยว แม่บ้านมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ตามจุดต่าง​ ๆ​ รวม 11 จุดตรวจ​ ใน​เขตอำเภอเก้าเลี้ยว​ พร้อมมอบสิ่งของและเยี่ยมด่านตรวจ ซึ่งการติดตามตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญ​ และการให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามจุดตรวจ​ จุดสกัด​ และจุดบริการ ในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564

โดยนายรัฐพล​ ธุระ​พันธุ์​ นายอำเภอเก้าเลี้ยว​ ได้ให้คำแนะนำ ในการปฏิบัติงานของแต่ละจุด ให้มีความระมัดระวัง ในความปลอดภัยแก่ผู้ปฏิบัติงาน และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส covid-19 ทั้งกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ในแต่ละจุด เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี​

โดยจะเน้นให้ปฏิบัติหน้าที่​อย่างระมัดระวัง​ ในเส้นทางหลวงหมายเลข​ 117  นครสวรรค์​ -​ พิษณุโลก​ ซึ่งประชาชนกำลังเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ จะทำให้มีปริมาณรถเต็มพื้นผิวการจราจร บางช่วงเวลารถสามารถเคลื่อนตัวได้อย่างช้าๆ สลับกันหยุดนิ่งมีรถติดสะสมท้ายแถวยาวประมาณ 5 กิโลเมตร และเน้นให้เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกตามจุดกลับรถต่างๆ เพื่อระบายรถให้คล่องตัวขึ้น

!!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ภูธร​  0619525644!!!!! 

ศรีสะเกษ ผวจ.เปิดป้ายและส่งมอบอาคารเรียนมุฑิตารมณ์ ร.ร.บ้านหนองไผ่ เพื่อใช้ในการเรียนการสอน

เมื่อวันที่   1  ม.ค. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่  ร.ร.บ้านหนองไผ่  ต.หนองไผ่  อ.เมือง  จ.ศรีสะเกษ  นายวัฒนา พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ  เป็นประธานในพิธีเปิดป้ายอาคารเรียน  และส่งมอบอาคารเรียนมุฑิตารมณ์  ร.ร.บ้านหนองไผ่  โดยความร่วมมือของชาวบ้านหนองไผ่  ชมรมศิษย์เก่า  ผู้ปกครองนักเรียน  คณะครู  และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  ร่วมกันจัดหาทุนเพื่อสร้างอาคารเรียน  ซึ่งใช้งบประมาณในการก่อสร้าง  รวมจำนวนทั้งสิ้น  1,450,000  บาท 

เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนในการจัดการเรียนการสอนของ  ร.ร.บ้านหนองไผ่  โดยมี  พระราชกิตติรังษี  เจ้าคณะ  จ.ศรีสะเกษ  เจ้าอาวาสวัดเจียงอีศรีมงคลวราราม  พระอารามหลวง   เป็นประธานฝ่ายสงฆ์   และมี  นายสมเกียรติ  ศรีขาว  นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ  พร้อมด้วย  ว่าที่  ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์  นามศรี  ผอ.สพป.ศรีสะเกษ  เขต  1  นายสุเทพ  ศรบุญทอง  รอง  ผอ.สพป.ศรีสะเกษ  เขต  1  น.ส.นารีรัตน์ เอกศิริ  ผอ.ร.ร.บ้านหนองไผ่  อบต.กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  ผู้ปกครองนักเรียน  และชาวบ้านหนองไผ่  เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ทั้งนี้  ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยจัดจุดตรวจคัดกรอง  วัดอุณหภูมิ  เจลแอลกอฮอล์   เว้นระยะห่าง  และมีการสวมใส่หน้ากากอนามัย  อย่างเคร่งครัด

!!!!! ศิริเกษ  หมายสุข  ผู้สื่อข่าว  จ.ศรีสะเกษ!!!!! 

สตูล “จิตอาสาตำรวจน้ำสตูล” มอบของอุปโภคบริโภคให้กับครอบครัวของนายคุ้น แซ่ขอ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนเบื้องต้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด19

จากนโยบายของท่าน พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ให้น้อมนำพระราโชบายของในหลวงให้ประชาชนเกิดความรักความสามัคคี ผ่านโครงการ“จิตอาสาพระราชทาน” และแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจน้ำที่ท่านพล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ให้ตำรวจน้ำใส่ใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และช่วยเหลือบำบัดทุกข์ของประชาชนทุกโอกาสที่ทำได้          พ.ต.อ.จตุรวิทย์  คชน่วม ผกก.9 บก.รน.,พ.ต.ท.บรรเจิด มานะเวช รอง. ผกก.9 บก.รน.,พ.ต.ท.ศุภศิษฏ์ อึ้งสุวรรณพานิช รอง ผกก.9 บก.รน. ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ศิโรดม สนุ่นดี สว.ส.รน.3 กก.9 บก.รน.สารวัตรตำรวจน้ำสตูลพร้อมจิตอาสาตำรวจน้ำสตูล นำสิ่งของที่จำเป็น พร้อมเครื่องอุปโภค บริโภค มอบให้ครอบครัวของนายคุ้น แซ่ขอ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนเบื้องต้นทั้งนี้ครอบครัวนี้อยู่ด้วยกัน 5 คนหนึ่งในนั้นก็มีเด็กอายุ 7 เดือนอยู่ด้วยส่วนนายคุ้น แซ่ขอ ก็มีโรคประจำตัวอีกด้วย       ด้านนางสาวเสาวลักษณ์ ควนเคี่ยมเล่าว่าก่อนหน้านี้ที่ยังไม่มีสถานการณ์โควิด19 ตนเองและครอบครัวอยู่บ้านเช่าและสามีก็ออกหาปลาบ้างทำงานก่อสร้างบ้างรายได้ก็มีมาเรื่อยๆแต่พอมาเจอสถานการณ์โควิด19 ทำให้ตนไม่ค่อยมีงานทำเลยทำให้ไม่มีค่าเช่าบ้านตนและครอบครัวต้องย้ายออกมาอยู่ซอยหลังโรงยาง หมู่ที่ 3 เทศบาลตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ทำเป็นที่พักเล็กๆโดยใช้ผ้าเต็นคลุมหลังคาเพื่อไม่ให้เปียกฝนและไฟฟ้าก็ใช้เครื่องปั่นไฟปั่นเอาวันไหนไม่ตังซื้อน้ำมันมาใส่เครื่องปั่นไฟก็จะอยู่กันแบบมืดๆส่วนลูกก็ไม่ได้เรียนหนังสือเพราะลำบากกับการเดินทาง       ทั้งนี้จิตอาสาตำรวจน้ำสตูลมอบเครื่องใช้ที่จำเป็นในการอุปโภค และบริโภคให้กับผู้ที่ประสบความเดือดร้อนความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบากและได้รับความเดือนร้อนจากการระบาดของเชื้อโรคไวรัสโควิด -19 ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการดำรงชีพ การประกอบอาชีพจากการหยุดงาน และขาดรายได้​

///นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล

ศรีสะเกษ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ ตร.ไทยใจดีแจกผ้าห่มให้ผู้ยากไร้ต้านภัยหนาวในวันขึ้นปีใหม่ พร้อมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้สวมหมวกกันน็อค 100% และการป้องกันยาเสพติดในชุมชน​

เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชุมชนหนองหมู เขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  พ.ต.อ.เทพพิทักษ์  แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วย  พ.ต.ท.พิเนตร ดาวเรือง รอง ผกก.ป. สภ.เมืองศรีสะเกษ   ร.ต.อ.ธวัชชัย โสมาลี รอง สวป.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้นำ ตร.จิตอาส เจ้าหน้าที่ ตร.สายฟ้าเขต เจ้าหน้าที่ ตร.สายตรวจตำบล ได้นำเอาผ้าห่มกันหนาวอย่างดี  จำนวน  75 ผืน 

ไปมอบให้แก่ประชาชนในเขตชุมชนหนองหมูที่ยากไร้และขาดแคลน ซึ่งกำลังประสบปัญหาภัยหนาวจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นเป็นอย่างมากในขณะนี้ โดย พ.ต.อ.เทพพิทักษ์   ได้มีการประกาศประชาสัมพันธ์รณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุด้านการจราจร ประชาสัมพันธ์ให้สวมหมวกกันน็อค 100%  รณรงค์เมาไม่ขับ  ประชาสัมพันธ์การป้องกันยาเสพติดในชุมชน รณรงค์ตามมาตรการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเมื่อแจกผ้าห่มเสร็จแล้ว พ.ต.อ.เทพพิทักษ์  ได้นั่งลงยอง ๆ ข้างประชาชนผู้สูงอายุและพูดคุยไต่ถามความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างเป็นกันเอง สร้างความประทับใจให้กับประชาชนที่มาร่วมรับมอบผ้าห่มกันหนาวในครั้งนี้เป็นอย่างมาก  โดยมี น.ส.พเยาว์ โสดาลี ประธานชุมชนหนองหมู นำประชาชนมารับมอบผ้าห่มและให้การต้อนรับ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์  แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า  เนื่องในวันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่และสภาพอากาศของ จ.ศรีสะเกษหนาวเย็นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขต อ.เมืองศรีสะเกษ เมื่อคืนที่ผ่านมาอุณหภูมิลดลงอยู่ที่ 14 องศาเซลเซียส  ตร.ไทยรวมน้ำใจสู้ภัยหนาว จึงได้ช่วยเหลือคนชราโดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณปู่คุณย่าคุณน้าคุณอาของชุมชนหนอง ซึ่งเป็นชุมชนที่มีสภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างยากไร้กว่าชุมชนอื่น  ซึ่งตนเห็นว่าชุมชนนี้อยู่ในความดูแลของ สภ.เมืองศรีสะเกษ ดังนั้นจึงได้นำเอาผ้าห่มกันหนาวที่ได้รับความเมตตามาจาก พระอาจารย์ไพรวัลย์ ทันตวีโร เจ้าอาวาสวัดบ้านเหมือดแอ่ ต.กุดเมืองฮาม อ.ยางชุมน้อย                                            จ.ศรีสะเกษ  และคณะญาติธรรมโดยมีตนเป็นตัวแทนนำเอาผ้าห่ม จำนวน 75 ผืน มามอบให้ประชาชนชาวหนองหมู พ.ต.อ.เทพพิทักษ์  แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า  ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้  ตนขอฝากถึงประชาชนในเขต อ.เมืองศรีสะเกษทุกคนว่า ดื่มสุราเบียร์ได้ แต่ต้องพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ดื่มแล้วห้ามมาขับรถ  นอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ก็อาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทำให้ได้รับอันตรายต่อร่างกายและอาจทำให้ถึงกับเสียชีวิตได้

////ภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

จังหวัดนครสวรรค์​ ประชุมเพื่อวิเคราะห์​และติดตามการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงปีใหม่

 วันศุกร์ที่ 1 มกราคม 2564 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม 301 ศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์ นายปรีชา เดชพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ให้เป็นประธานการประชุมเพื่อวิเคราะห์และติดตามการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 โดยฝ่ายเลขานุการฯ จากศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 จังหวัดนครสวรรค์ ได้รายงานอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 ประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีรายละเอียด ดังนี้ -อุบัติเหตุทางถนน รวม 3 ครั้งสะสมสามวัน รวม 5 ครั้ง -ผู้เสียชีวิต จำนวน 1 รายในพื้นที่อำเภอบรรพตพิสัยสะสมสามวัน รวม 1 ราย -ผู้บาดเจ็บ(admit) รวม 2 รายในพื้นที่อำเภอตากฟ้าสะสมสามวัน รวม 5 รายและรับทราบรายงานการตรวจติดตาม การตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามจุดตรวจ จุดสกัด จุดบริการ และด่านชุมชน

ในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 จากคณะทำงานฯ จำนวน 5 คณะ         ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำการจัดทำป้ายเตือนลดอุบัติเหตุในพื้นที่อำเภอ การออกตรวจติดตามการตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตามจุดตรวจ ควรเน้นเป็นหัวหน้าหน่วยงานในแต่ละคณะฯ ออกตรวจเพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และรับทราบปัญหาอุปสรรค พร้อมให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามจุดตรวจสวมเสื้อสะท้อนแสงตลอดเวลาในการปฏิบัติงาน และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง รวมทั้งการดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ตามจุดตรวจ จุดสกัด จุดบริการ และด่านชุมชน

!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ภูธร​0619525644!!!! 

ศรีสะเกษ นักท่องเที่ยวแห่ไปชมช้างแสนรู้คุกเข่าไหว้ขอบคุณผู้ให้อาหารที่วัดไพรพัฒนา หลวงพ่อพุฒเผยจะมีช้างทั้งหมด 8 เชือก มาจัดการแสดงโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.ศรีสะเกษหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19​

เมื่อวันที่ 1 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่ตลาดวัฒนธรรมอาเซียนวัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์                             จ.ศรีสะเกษ ได้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากพากันมาชมความน่ารักของช้างแสนรู้ จำนวน 4 เชือก ซึ่งพระครูโกศลสิกขกิจ  หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะ อ.ภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ได้นำเอาช้างทั้งหมดมาทำเป็นปางช้าง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาชมและศึกษาธรรมชาติของช้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าชายภูดอย ซึ่งเป็นช้างพลายแสนรู้ สามารถทำตามคำสั่งของครวญช้างได้อย่างน่ารักมาก เช่น เมื่อได้รับอาหารจากนักท่องเที่ยว จะส่งเสียงร้องขอบคุณ และเมื่อหลวงพ่อพุฒมายืนให้อาหารอยู่ด้วย เจ้าชายภูดอยก็จะคุกเข่าเท้าคู่หน้าลงคู่กัน ลักษณะเหมือนกับการพนมมือไหว้ของคน

จากนั้นจะเอางวงรับอาหารซึ่งเป็นท่อนอ้อย พร้อมทั้งส่งเสียงร้อง เพื่อเป็นการขอบคุณ เมื่อรับอาหารเสร็จแล้วก็จะกินอ้อยเป็นอาหาร เสร็จแล้วก็จะลุกขึ้นยืน และหากว่ามีผู้ให้อาหารอีก ครวญช้างจะสั่งว่าร้องขอบคุณ เจ้าชายภูดอยจะเหยียดเท้าไปข้างหน้าย่อตัวลง แล้วส่งเสียงร้องขอบคุณ ขณะที่ช้างอีก 3 เชือก ประกอบด้วย น้องทัดดาว น้องน้ำฝน และสาวจันทร์หอม ก็จะเชื่องและแสนรู้เช่นกัน เมื่อรับอาหารแล้วก็จะเอางวงมาแตะกับมือของผู้ให้อาหาร เพื่อเป็นการขอบคุณ ซึ่งปรากฏว่านักท่องเที่ยวต่างพากันประทับใจกับความแสนรู้ของช้างทุกเชือกเป็นอย่างมากนายจรูญโรจน์   ไชยโคตร อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 4 ต.ผือใหญ่ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่มากับครอบครัวและเพื่อนๆ กล่าวว่า ตนรู้สึกประทับใจกับความแสนรู้และความน่ารักของช้างทุกเชือกเป็นอย่างมาก ซึ่งการที่วัดไพรพัฒนานำเอาช้างมาทำเป็นปางช้างขึ้นมา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชม ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์มาก เนื่องจากว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวได้ชมธรรมชาติของช้างอย่างใกล้ชิด ไม่ต้องเดินทางไกลไปถึง จ.สุรินทร์ ที่มีช้างจำนวนมาก นับว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.ศรีสะเกษ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาได้เป็นอย่างดียิ่งพระครูโกศลสิกขกิจ  หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะ อ.ภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา กล่าวว่า เจ้าของช้างทั้งหมดเป็นลูกหลานของญาติโยมที่นำเอาช้างมาจาก จ.ภูเก็ต ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนในการทำมาหากิน จึงได้กลับมาอยู่บ้านที่ จ.สุรินทร์ ดังนั้น อาตมาภาพจึงได้อำนวยความสะดวกในการจัดสถานที่รองรับให้ครวญช้างและช้างทั้งหมดได้พักอาศัยอยู่ได้ โดยช้างที่นำมาครั้งแรกนี้มีจำนวน 4 เชือก และจะมีช้างมาเพิ่มอีก จำนวน 4 เชือก รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 8 เชือก ซึ่งจะมีการจัดการแสดงของช้างขึ้นมาในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ส่วนจะเป็นการแสดงอย่างไรนั้น จะมีการจัดโปรแกรมการแสดงแจ้งออกมาให้ทราบโดยทั่วกัน คาดว่าจะเปิดการแสดงของช้างได้ภายใน 2 สัปดาห์นี้ เนื่องจากว่าจะต้องจัดเตรียมสถานที่ให้มีความพร้อมในทุกด้านให้มีความเรียบร้อยสวยงามเสียก่อน ซึ่งปางช้างแห่งนี้จะเป็นอีกแห่งหนึ่งไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนทั่วไปได้นำบุตรหลาน ครอบครัวมาชมความน่ารักของช้างแสนรู้ หลังจากที่ได้พากันไปกราบขอพรจากหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน ที่วัดไพรพัฒนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว

//////ภาพ / ข่าว ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ