ต้อยทูเดย์ออนไลน์ Toytodayonline

วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2564

จปร.47 มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่อลมหายใจ

ตามที่ได้เกิดการแพร่ระบาดของโรค COVID – 19 ระลอกใหม่ตั้งแต่ต้นปี 2564 เป็นต้นมา ส่งผลให้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
เป็นจำนวนมาก 
  ในการนี้คณะนักเรียนนายร้อย โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 47 (จปร.47) ได้ร่วมกันมอบเครื่องผลิตออกซิเจน (Oxygen Concentrator) ให้กับโรงพยาบาลสนามของกองทัพบก จำนวน 4 เครื่อง ใน 4 พื้นที่ ได้แก่1.รพ.สนามกองทัพบก (กรมยุทธศึกษาทหารบก) กรุงเทพฯ2.รพ.สนามค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก3.รพ.สนามค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา4.รพ.สนามค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราชและเมื่อวันที่ 28 ส.ค.64 พล.ต.วุฒิชัย อิสระ รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก ได้เป็นผู้รับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าว จากผู้แทน คณะ จปร.47ทั้งนี้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการให้บริการทางการแพทย์ในการรักษาพยาบาลแก่พี่น้องประชาชนต่อไป!!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ ภูธร​0619525644!!!!! 

เทศบาลลาดยาว คว้ารางวัล​ ITA ปี 2564 ที่ 98.47 คะแนน ระดับที่ 1​ ในกลุ่มเทศบาล

วันที่ 26 สิงหาคม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ประกาศผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ(ITA)​ ประจำปีงบประมาณ​ 2564​ โดยทางเทศบาลตำบลลาดยาว ได้รับรางวัล ITA โดยได้รับผลประเมินที่ 98.47 คะแนนทางด้านนายสุภาพ   ศักดิ์​ส​ั​จ​จา นายกเทศมนตรีตำบลลาดยาว เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)​ ประกาศผลคะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ(ITA)​ประจำปี 2564​ ซึ่งทางเทศบาลตำบลลาดยาวได้รับรางวัล ITA​  ปี 2564 ด้วยคะแนน 98.47 อยู่ในระดับ AA และเป็นหน่วยงานที่ได้รับคะแนนประเมินสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในประเภทกลุ่มเทศบาล จากจำนวนผู้ที่เข้าร่วมการประเมิน(ITA)​รวมทั้งสิ้น  21 แห่ง ซึ่งเทศบาลตำบลลาดยาว ยังสร้างสถิติแบบก้าวกระโดด ขึ้นมาเป็นปีแรกของการได้รับ อันดับที่ 1 และทางด้านนายกเทศมนตรีตำบลลาดยาว ยังกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ได้ร่วมทำงานทำให้เกิดผลงานที่ดีและน่าชมเชย และต่อจากนี้ทางเทศบาลตำบลลาดยาว จะปฏิบัติงานตามกระบวนงานที่เป็นระบบอย่างต่อเนื่อง โดยผู้นำมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน การบริหารงานอย่างมีธรรมาภิบาล ความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และที่สำคัญคือการต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบในเขตเทศบาลตำบลลาดยาว (นายกกล่าว)!!!! อัมพณ จับ​ศร​ทิพย์​  0979998240​!!!!!

วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2564

สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานกาญจนบุรี "จัดอบรมการจัดการองค์กรในยุค New Normal"

วันที่ 27 สิงหาคม 2564 สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานกาญจนบุรี​ ดำเนินการเปิดฝึกอบรมตามโครงการส่งเสริมการพัฒนาตลาดแรงงานให้มีปริมาณและคุณภาพตามความต้องการของผู้ประกอบการปัจจุบันและนักลงทุนเป้าหมาย หลักสูตรยกระดับฝีมือแรงงาน สาขา​ จัดการองค์กรในยุค​ New Normal (18 ชั่วโมง) ให้กับแรงงานในสถานประกอบการ จำนวน 20 คน ระหว่างวันที่ 27-29 สิงหาคม 2564 ณ Co-working space  ต.ปากแพรก​ อ. เมือง​ จ. กาญจนบุรี!!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ ภูธร​0619525644!!!! 

วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ศรีสะเกษ คืบหน้า นายก อบต.เวียงเหนือยิงข้าราชการสาวดับสยองผู้การตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มเจตนาฆ่าผู้อื่น ขณะที่สามีเหยื่อปืนโหดขอความเป็นธรรมและเร่งให้รื้อกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุเพื่อดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายประกอบ อินอร่าม  นายก อบต.เวียงเหนือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิง น.ส.ลักขณา โททอง อายุ 42 ปี ข้าราชการสาว ตำแหน่ง หัวหน้าสำนักงานปลัด อบต.เวียงเหนือ เข้าที่บริเวณหน้าอกด้านขวา ทำให้เสียชีวิต ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ นายประกอบได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนพร้อมอาวุธปืนที่ก่อเหตุ โดยให้การว่า ปืนลั่นถูก น.ส.ลักขณา ซึ่งเบื้องต้น พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ และ พ.ต.ท.ประมุขก์ ห่ามกระโทก สว.(สอบสวน) ได้แจ้งข้อหาว่า ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนายก อบต.เวียงเหนือ ได้ใช้ตำแหน่งประกันตัวเองออกไปเพื่อต่อสู้คดี ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้นความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้เดินทางไปตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าของคดีนี้ ซึ่ง พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ และ พ.ต.ท.ประมุขก์ ห่ามกระโทก สว.(สอบสวน) ได้นำสำนวนการสอบสวนพร้อมทั้งพยานหลักฐานต่างๆ ของคดีนี้มารายงานให้ทราบ ซึ่ง พล.ต.ต.สันติ ได้ตรวจดูสำนวนคดีอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทั้งนี้เนื่องจากว่าคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญและเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน โดย พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้รายงานว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ นายวิชิต สุวะจันทร์ อายุ 44 ปี อาชีพรับราชการ ตำแหน่ง หัวหน้าสำนักงานปลัด อบต.เสียว อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.ลักขณา โททอง ผู้เสียชีวิต ได้นำเอาเอกสารบันทึกประจำวันของสถานีตำรวจแห่งหนึ่งมาเพื่อประกอบหลักฐานให้เห็นว่า ก่อนหน้านี้นายประกอบ อินอร่าม นายก อบต.เวียงเหนือ ได้เคยทำร้ายร่างกาย น.ส.ลักขณา มาก่อนแล้ว ทำให้มีเรื่องโกรธเคืองกันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐาน โดยขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้ตั้งประเด็นการสอบสวนไว้ 3 ประเด็นด้วยกันคือ 1. ความขัดแย้งในสำนักงาน 2. ชู้สาว 3. ผลประโยชน์ ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการสอบสวนพยานและรวบรวมหลักฐาน จะไม่ทิ้งประเด็นใด เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงของการเกิดเหตุที่ทำให้มีการยิงกันเสียชีวิตในครั้งนี้  ส่วนการที่มีการอนุญาตให้นายประกอบ อินอร่าม ผู้ต้องหารายนี้ประกันตัวออกไปนั้น เนื่องจากว่าหลังจากเกิดเหตุ ผู้ต้องหารายนี้ได้เข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวนและได้นำเอาอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุมามอบให้กับพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง จึงได้รับสิทธิ์ในการประกันตัว เพราะว่าผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมที่จะหลบหนีแต่อย่างใดพล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนมาติดตามความคืบหน้าของคดีนี้ เพื่อต้องการให้มีการสอบสวนพยานและรวบรวมหลักฐานทุกอย่างของคดีให้ครบถ้วน เนื่องจากว่าคดีนี้เป็นคดีที่สะเทือนขวัญของประชาชนชาวศรีสะเกษ ซึ่งจากการที่ตนได้ตรวจสอบสำนวนคดี และจากการตรวจสอบพยานหลักฐานต่าง ๆ แล้ว ตนได้สั่งการให้ ผกก.สภ.กันทรลักษ์ และพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหากับผู้ต้องหารายนี้เพิ่มอีก 1 ข้อหาคือ เจตนาฆ่าผู้อื่น ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (27 ส.ค.64) พนักงานสอบสวนจะได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาล จ.กันทรลักษ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย  ตนขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตามพยานหลักฐานอย่างเต็มที่ ซึ่งคดีนี้ไม่ได้มีความสลับซับซ้อนแต่อย่างใด เนื่องจากว่าพยานหลักฐานต่าง ๆ ค่อนข้างชัดเจนมากผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาได้เดินทางไปที่ที่ทำการ อบต.เวียงเหนือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งสถานที่เกิดเหตุอยู่ในห้องปฏิบัติงานของกองช่าง พบว่า นายจิรทีปต์ ศรีสวัสดิ์ รองปลัด อบต.เวียงเหนือ รักษาการ ปลัด อบต.เวียงเหนือ ข้าราชการและลูกจ้างประจำ ยังคงมาปฏิบัติหน้าที่ราชการกันตามปกติ แต่ว่าข้าราชการทุกคนก็ยังคงมีสีหน้าไม่คลายจากอาการตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากว่า น.ส.ลักขณา โททอง และนายประกอบ อินอร่าม ต่างก็ทำงานอยู่ในสำนักงานเดียวกัน และไม่คาดฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ขณะที่โต๊ะทำงานของ น.ส.ลักขณา โททอง ก็ยังคงอยู่ในสภาพปกติ มีโน๊ตบุ๊ควางอยู่ ส่วนเจ้าหน้าที่ของสำนักงานปลัดก็ยังคงมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยแจ้งว่าขอให้เป็นเรื่องการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ ที่กำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ในขณะนี้ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 3 หมู่ 8 บ้านห้วยเสียว ต.หนองงูเหลือม อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลของ น.ส.ลักขณา โททอง เหยื่อกระสุนปืนของ นายก อบต.เวียงเหนือ บรรยากาศภายในบริเวณงานเป็นไปด้วยความเศร้าโศก มีบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงานพากันทยอยเดินทางมาเคารพศพ และรอร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพในช่วงเย็นของวันนี้ ซึ่งนายวิชิต สุวะจันทร์ อายุ 44 ปี หัวหน้าสำนักงานปลัด อบต.เสียว สามีของ น.ส.ลักขณา พร้อมด้วย ญาติพี่น้อง ได้ให้การต้อนรับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานศพ นายวิชิต สุวะจันทร์ สามีของเหยื่อกระสุนปืน นายก อบต.เวียงเหนือ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงปี 2563 น.ส.ลักขณา ภรรยาของตน ได้เคยถูกนายประกอบ อินอร่าม นายก อบต.เวียงเหนือ ทำร้ายร่างกาย โดยใช้เท้าถีบภรรยาของตน จึงได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน และต่อมา น.ส.ลักขณา จะเล่าให้ตนฟังเสมอว่า ขณะนี้กำลังมีปัญหากับผู้บริหาร หมายถึง นายก อบต.เวียงเหนือ จนกระทั่งมาถูก นายก อบต.เวียงเหนือ ใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต ตนไม่เชื่อว่าเป็นเหตุปืนลั่น ทำให้ภรรยาของตนเสียชีวิต แต่ตนเชื่อว่าเป็นการจงใจฆ่าภรรยาของตน ส่วนสาเหตุประการใดนั้นขอให้อยู่ในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ ตนขอความเป็นธรรมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ และขอให้ทำการรื้อเอาภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาตรวจสอบข้อเท็จจริงประกอบการดำเนินคดี เนื่องจากว่าภาพจากกล้องวงจรปิดจะสามารถยืนยันว่าสาเหตุที่แท้จริงของการฆ่าโหดภรรยาของตนนี้เป็นเพราะสาเหตุใดภาพ / ข่าว  ศิริเกษ  หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ 

ศรีสะเกษ นายก อบต.เวียงเหนือปืนลั่นโป้งถูกหน้าอกสาวหัวหน้าสำนักปลัดดับอนาถ นายอำเภอกันทรลักษ์ประกาศพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายตามพยานหลักฐาน

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อบต.เวียงเหนือ ต.เวียงเหนือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ  นายสุกิจ   เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ พร้อมด้วย  พ.ต.อ.นรินทร์  บุพตา  ผกก.สภ.กันทรลักษ์  พ.ต.ท.ประมุขก์   ห่ามกระโทก  สว.(สอบสวน) สภ.กันทรลักษ์และเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.กันทรลักษ์                             ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งมีการใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิต เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 ส.ค. 64  ที่ผ่านมา โดยคณะของนายอำเภอกันทรลักษ์ ได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติงานของ                     กองช่าง อบต.เวียงเหนือ โดยมีเจ้าหน้าที่ของ อบต.เวียงเหนือ ให้การต้อนรับและนำตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ  พบว่า บริเวณที่เกิดเหตุมีการล้างคราบเลือดและเก็บข้าวของส่วนหนึ่งไว้เป็นระเบียบแล้ว  และพบขวดเบียร์และขวดเปล่าของน้ำอัดลมหลายขวดวางอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุด้วย  ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด  เพื่อประกอบหลักฐานในการดำเนินคดีนี้โดยเหตุสะเทือนขวัญนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 24ส.ค.64  พ.ต.ท.ประมุขก์  ห่ามกระโทก สว.(สอบสวน) สภ.กันทรลักษ์  จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลกันทรลักษ์ว่า มีเหตุผู้ถูกอาวุธปืนยิง มาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา   ดังนั้น จึงได้เดินทางไปตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิตภายหลังว่าคือ นางลักขณา  โททอง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 8 ตำบลหนองงูเหลือม อำเภอเบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ อาชีพรับราชการ ตำแหน่ง หัวหน้าสำนักปลัด อบต.เวียงเหนือ  มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านขวาเป็นเหตุให้เสียชีวิต  ทราบชื่อผู้ก่อเหตุภายหลังว่าคือ  นายประกอบ  อินอร่าม ตำแหน่ง นายก อบต.เวียงเหนือ  อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้เสียชีวิตจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า  ก่อนเกิดเหตุ นายประกอบ ร่วมกับ นางลักขณาและเพื่อนร่วมงานจำนวนหนึ่งได้นั่งดื่มเบียร์กันในห้องปฏิบัติงานของกองช่างหลังจากเลิกงานหมดเวลาราชการแล้ว  ต่อมา นายประกอบได้นำอาวุธปืนของตนเองมาตรวจสอบและทดลองเล็งไปยังที่ต่าง ๆ และได้ลั่นไกปืนซึ่ง                     นายประกอบ   อินอร่าม เข้าใจว่าคำว่าอาวุธปืนของตนเองไม่ได้บรรจุกระสุนไว้ จึงมั่นใจและคิดว่าไม่มีกระสุนจึงเหนี่ยวไกปืนเล่น และปรากฏว่า กระสุนปืนได้ลั่นไปถูกนางลักขณา โททอง เข้าที่บริเวณหน้าอกซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ห่างกันประมาณ 1 เมตร ซึ่งภายหลังที่ปืนได้ลั่นไปถูก นางลักขณา ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์แล้ว   นายประกอบกับพวก ได้รีบนำร่างของผู้ได้รับบาดเจ็บส่งไปที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์เพื่อให้แพทย์รักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน  แต่ว่าแพทย์พยาบาลไม่สามารถที่จะยื้อชีวิตของ                             นางลักขณาไว้ได้ จึงทำให้นางลักขณาเสียชีวิตในที่สุด และต่อมา นายประกอบ  อินอร่าม นายก อบต.เวียงเหนือ ได้เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ทประมุขก์ ห่ามกระโทก สว.(สอบสวน)  โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปดำเนินคดีตามกฎหมาย  ซึ่ง นายก อบต.เวียงเหนือ  ได้ใช้ตำแหน่ง ประกันตนเองออกไปเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไปนายสุกิจ   เหลืองสกุลไทย  นายอำเภอกันทรลักษ์  กล่าวว่า   เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้าสลดใจ เป็นอย่างมาก  เพราะว่าทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตอยู่ในที่ทำงานเดียวกันและเป็นผู้ที่ใกล้ชิดคุ้นเคยกันในฐานะผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา   จึงได้นั่งร่วมกันพบปะพูดคุยกันหลังจากเลิกงานแล้ว ซึ่งตนได้ร่วมกับ พ.ต.อ.นรินทร์  บุพตา  ผกก.สภ.กันทรลักษ์ และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุและได้ให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคนของ อบต.เวียงเหนือ  ซึ่งตนพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่ปรากฏอย่างเต็มที่ต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับ นางลักขณา  โททอง อายุ 42 ปี ตำแหน่ง หัวหน้าสำนักปลัด                            อบต.เวียงเหนือ  เป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการดีเด่นมาโดยตลอด  สามีประกอบอาชีพรับราชการ ตำแหน่ง หัวหน้าสำนักปลัด อบต.แห่งหนึ่งที่ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ  มีลูกชายด้วยกัน 1 คน กำลังเรียนหนังสือระดับประถมศึกษาที่ ร.ร.แห่งหนึ่งที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งการที่นางลักขณา เสียชีวิตอย่างไม่คาดฝันนี้ สร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่ครอบครัว ญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงานทุกคนเป็นอย่างยิ่ง โดยศพของนางลักขณา ได้ถูกนำส่งไปที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรศพตามกฎหมาย จากนั้นได้มอบศพให้กับญาติเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไปภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข  ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ คืบหน้าลัทธิประหลาดรองเจ้าคณะจังหวัดเตือนพุทธศาสนิกชนไม่ควรไปหลงเชื่อ เนื่องจากพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้มีระบุเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เอาไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีสามีภรรยาได้อ้างตัวเองว่าเป็นปู่ฤาษีนำชาวบ้านสวดมนต์ด้วยภาษาที่ไม่มีใครทราบอยู่ที่บ้านอ้อ ตำบลเมืองหลวง อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษซึ่งชาวบ้านได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนเพื่อให้เข้าไปตรวจสอบปรากฏว่า ล่าสุดฝ่ายปกครองอำเภอห้วยทับทันร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษได้เข้าไปตรวจสอบแล้ว เบื้องต้นไม่พบการกระทำผิดกฎหมายและได้นำเอาหมายจับของศาลจังหวัดร้อยเอ็ดไปทำการจับกุมตัวนางละไม ทิศกระโปก ภรรยาของชายที่อ้างตัวว่า เป็นปู่ฤาษี ฐานความผิดยักยอกทรัพย์ ควบคุมตัวไปดำเนินคดี โดยได้ประสานงานแจ้งให้สถานีตำรวจภูธรเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด มารับตัวไปดำเนินคดีต่อไปแล้ว ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้นความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดเพียนาม ตำบลหนองไผ่อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ พระครูสิริปริยัติการ รองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ  และเจ้าอาวาสวัดเพียนาม ได้ตรวจสอบดูคลิปการสวดมนต์ของชายที่อ้างตัวเป็นปู่ฤาษีกับคณะลูกศิษย์แล้ว โดยได้ตรวจดูอย่างละเอียดตามคลิปที่ประชาชนได้ถ่ายเอาไว้ ซึ่งท่านรองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษได้พยายามดูทุกแง่ทุกมุมแล้ว แต่ปรากฏว่าบทสวดดังกล่าวนี้ไม่เคยมีระบุไว้ในบทสวดทางพระพุทธศาสนาแต่อย่างใดและไม่ทราบว่าเป็นภาษาอะไรพระครูสิริปริยัติการ รองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า บทสวดดังกล่าวนี้ไม่ทราบว่าเป็นภาษาอะไรและไม่ทราบว่าความหมายคืออะไร ซึ่งอาตมาภาพไม่เคยได้ยินมาก่อนแต่อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ขอฝากเตือนพุทธศาสนิกชนว่า ไม่ควรไปหลงเชื่อ เนื่องจากว่า พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมา                      สัมพุทธเจ้าไม่ได้มีระบุเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เอาไว้ พระพุทธศาสนาสอนด้วยเหตุด้วยผลและมีเหตุมีผล ให้เชื่อกรรมเชื่อการกระทำของตนเอง จะทำให้ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมีความเจริญรุ่งเรืองทั้งตนเองและครอบครัวเป็นผลดีต่อสังคมส่วนรวมและประเทศชาติสืบต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่สำนักปู่ฤาษีที่ บ้านอ้อ ตำบลเมืองหลวง อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษหลังจากที่ภรรยาของชายที่อ้างตัวว่าเป็นปู่ฤาษีถูกตำรวจจับตัวฐานยักยอกทรัพย์ไปแล้ว ปรากฏว่าบรรยากาศที่สำนักฤาษีค่อนข้างเงียบเหงา มีเพียงลูกศิษย์คนสนิทที่มาคอยดูแลสำนักปู่ฤาษีแห่งนี้ ขณะที่ชาวบ้านใกล้สำนักปู่ฤาษีก็ไม่ได้เข้ามาหาหรือสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด เนื่องจากว่ามีชาวบ้านเพียงไม่กี่หลังคาเรือนที่เข้ามาสวดมนต์ที่สำนักปู่ฤาษีแห่งนี้เท่านั้นภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ 

กองกำลังนเรศวร ลาดตระเวนเข้มพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

วันที่ 26 สิงหาคม 2564 กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 147 ศูนย์เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พันเอก รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 เป็นผู้แถลงข่าวฯ มีสาระสำคัญดังนี้.- ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ ประกอบกับที่รัฐบาลได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร โดยมีข้อกำหนดตามกรอบพระราชกำหนด        การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้พิจารณาให้ระงับการใช้ช่องทางการเข้าออกประเทศในทุกพื้นที่ที่มีเขตติดต่อชายแดน เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 มาจนถึงปัจจุบัน นั้น ศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 3 ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเกิดจากการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวได้ โดยได้มอบหมายให้กองกำลังนเรศวร และกองกำลังผาเมือง ดำเนินการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจพื้นที่ตามแนวชายแดน โดยใช้วิธีการเดินเท้า และการใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการลาดตระเวนเป็นประจำอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบูรณาการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจพื้นที่ตามแนวชายแดน ในสถานการณ์การแพร่ระบาด   โควิด-19 เป็นไปอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น ในการนี้ กองกำลังนเรศวร (รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก และจังหวัดแม่ฮ่องสอน) จึงได้ริเริ่มนำสัตว์บรรทุกต่าง (ม้า และ ล่อ) มาเป็นพาหนะ ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มระยะทาง และดำรงระยะเวลาได้ต่อเนื่อง รวมทั้งการบูรณาการยุทโธปกรณ์ทางทหาร มาเพิ่มในการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ      อีกทั้งเพิ่มทัศนวิสัยการตรวจการณ์ ในพื้นที่ตามแนวชายแดนที่ทุรกันดาร ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2564      เป็นต้นมา มีรายละเอียดการปฏิบัติดังนี้.- 1. การใช้สัตว์บรรทุกต่าง โดย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการ จำนวน 6 นาย ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมทั้งรับการสนับสนุนชุดม้าเป็นยานพาหนะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนที่ระยะไกล ในการป้องกันการลักลอบหลบหนีข้ามแดนโดยผิดกฎหมายและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทุกประเภท ตั้งแต่บริเวณ ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก 2. การลาดตระเวนทางเรือ โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการ       ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจตามลำน้ำสาละวิน ในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย และเฝ้าระวังภัยแทรกซ้อนต่อความมั่นคงชายแดนในทุกมิติ 3. การลาดตระเวนโดยรถจักรยานยนต์ โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการ รถจักรยานยนต์ยุทธวิธี/เชิงรุก ทำการลาดตระเวนเคลื่อนไหว เฝ้าตรวจ พิสูจน์ทราบ เพื่อเป็นการป้องกันของกลุ่มขบวนการ การลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ยาเสพติด และการกระทำความผิดกฎหมายอื่นๆ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 3 ที่มีเจตนารมณ์ให้กองกำลังป้องกันชายแดน ได้ดำเนินการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจพื้นที่ตามแนวชายแดนอย่างเข้มข้น จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า ศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 3 พร้อมที่จะบูรณาการกำลังป้องกันชายแดนเพื่อปกป้องอธิปไตย, พิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติ รวมไปถึงการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 เพื่อให้พี่น้องคนไทยทุกคนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งสร้างความมั่นคงให้ประเทศชาติสืบไป!!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ภูธร​0619525644!!!! 

ทัณฑสถานเปิดหนองน้ำขุ่น จัดพิธีมอบพันธุ์กล้าไม้ในโครงการร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

วันนี้ 15 พฤษภาคม​ 2567​  ที่ทัณฑสถานเปิดหนองน้ำขุ่น นายบดินทร์  เกษมศานติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานพิธีรับมอบ...