ต้อยทูเดย์ออนไลน์ Toytodayonline

วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564

มณฑลทหารบกที่ 36 ร่วมใจแก้ปัญหาอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดพิจิตร

วันที่ 29 กันยายน 2564 กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 152 ศูนย์เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พันเอก รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 เป็นผู้แถลงข่าวฯ มีสาระสำคัญดังนี้.- ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศแจ้งเตือนภัย ในช่วงวันที่ 24 - 26 กันยายน 2564 พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” แล้ว หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ และเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ส่งผลทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝน เพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่บริเวณจังหวัดพิจิตร ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 36 เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิจิตร เป็นการเร่งด่วน โดยความร่วมมือของส่วนราชการ, ภาคเอกชน และประชาชนจิตอาสา ในการระดมสรรพกำลัง ทั้งทางด้านของกำลังพล, ยุทโธปกรณ์ และชุดแพทย์เดินเท้าเคลื่อนที่ในการให้ความช่วยเหลือภัยพิบัติ ดังนี้.-มณฑลทหารบกที่ 36 และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 30 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 21 จัดกำลังพล ร่วมกับส่วนราชการ และจิตอาสาในพื้นที่ ดำเนินการกรอกกระสอบทรายเพื่อนำไปวางเป็นแนวกั้นน้ำ ในพื้นที่บ้านห้วยพุก ตำบลห้วยพุก อำเภอดงเจริญปัจจุบัน สถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดพิจิตร ได้คลี่คลายลงตามลำดับ แต่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 36 ยังคงเฝ้าระวังและมีการเตรียมความพร้อมในการเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยทหาร ได้มีการเตรียมความพร้อมและซักซ้อมการปฏิบัติอยู่เสมอ และเมื่อเกิดเหตุจากภัยพิบัติต่างๆ ขอให้ท่านได้กรุณาแจ้งข่าวสารได้ที่หน่วยทหารใกล้บ้าน หรือศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 หมายเลขโทรศัพท์ 055 – 242859, เฟซบุ๊ก : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 3 และ เว็บไซต์ : กองทัพภาคที่ 3 (ทภ.3) http://army3.rta.mi.th/ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติเป็นการเร่งด่วนต่อไป!!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ ภูธร​0619525644!!!! 

ทหารค่ายพ่อขุนผาเมือง ผนึกกำลังทุกภาคส่วน แก้ไขปัญหาอุทกภัยในจังหวัดเพชรบูรณ์

วันที่ 29 กันยายน 2564 กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 152 ศูนย์เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พันเอก รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 เป็นผู้แถลงข่าวฯ มีสาระสำคัญดังนี้.- ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศแจ้งเตือนภัย ในช่วงวันที่ 24 - 26 กันยายน 2564 พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” แล้ว หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ และเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ส่งผลทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝน เพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองพลทหารม้าที่ 1 เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นการเร่งด่วน โดยความร่วมมือของส่วนราชการ, ภาคเอกชน และประชาชนจิตอาสา ในการระดมสรรพกำลัง ทั้งทางด้านของกำลังพล, ยุทโธปกรณ์ และชุดแพทย์เดินเท้าเคลื่อนที่ในการให้ความช่วยเหลือภัยพิบัติ ดังนี้.-1. กองพันทหารม้าที่ 13 กรมทหารม้าที่ 3 จัดกำลังพล ร่วมกับส่วนราชการ และจิตอาสาในพื้นที่ ดำเนินการขนย้ายและรับ - ส่ง ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ในพื้นที่บ้านพุเตย ตำบลพุเตย อำเภอวิเชียรบุรี2. กองพันเสนารักษ์ที่ 8 จัดกำลังพล ร่วมกับส่วนราชการ และจิตอาสาในพื้นที่ ดำเนินการขนย้ายสิ่งของและเครื่องมือการเกษตร พร้อมทั้งตรวจสุขภาพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ในพื้นที่ตำบลบึงสามพัน อำเภอบึงสามพัน3. กองพันทหารช่างที่ 8 กองพลทหารม้าที่ 1 จัดกำลังพล ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ดำเนินการวางสะพานหนุนมั่น MFB บริเวณเส้นทางที่ถูกตัดขาด อำเภอวิเชียรบุรี-บ่อรัง จำนวน 1 จุด ซึ่งมีความกว้างประมาณ 10 เมตร ในพื้นที่ตำบลบ่อรัง อำเภอวิเชียรบุรี4. กองพันทหารม้าที่ 13 กรมทหารม้าที่ 3 จัดกำลังพล ร่วมกับส่วนราชการ และจิตอาสาในพื้นที่ ดำเนินการช่วยเหลือขนประชาชนออกนอกพื้นที่ และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ในพื้นที่ตำบลคลองกระจัง อำเภอศรีเทพ ปัจจุบัน สถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้คลี่คลายลงตามลำดับ แต่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย    กองพลทหารม้าที่ 1 ยังคงเฝ้าระวังและมีการเตรียมความพร้อมในการเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยทหาร ได้มีการเตรียมความพร้อมและซักซ้อมการปฏิบัติอยู่เสมอ และเมื่อเกิดเหตุจากภัยพิบัติต่างๆ ขอให้ท่านได้กรุณาแจ้งข่าวสารได้ที่หน่วยทหารใกล้บ้าน หรือศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 หมายเลขโทรศัพท์ 055 – 242859, เฟซบุ๊ก : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 3 และ เว็บไซต์ : กองทัพภาคที่ 3 (ทภ.3) http://army3.rta.mi.th/ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติเป็นการเร่งด่วนต่อไป!!!!! ต้อย ​รอบ​รั้ว​ ภูธร​  0619525644!!!!! 

ทหารค่ายกาวิละ ร่วมป้องกันอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 29 กันยายน 2564 กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 152 ศูนย์เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พันโท วรปรัชญ์ กาศสกุล ผู้ช่วยกองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 เป็นผู้แถลงข่าวฯ มีสาระสำคัญดังนี้.- ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศแจ้งเตือนภัย ในช่วงวันที่ 24 - 26 กันยายน 2564 พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” แล้ว หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ และเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ส่งผลทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝน เพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 33 เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นการเร่งด่วน โดยความร่วมมือของส่วนราชการ, ภาคเอกชน และประชาชนจิตอาสา ในการระดมสรรพกำลัง ทั้งทางด้านของกำลังพล, ยุทโธปกรณ์ และชุดแพทย์เดินเท้าเคลื่อนที่ในการให้ความช่วยเหลือภัยพิบัติ ดังนี้.-1. มณฑลทหารบกที่ 33 จัดกำลังพล ร่วมกับส่วนราชการ และจิตอาสาในพื้นที่ดำเนินการบรรจุทรายใส่กระสอบ, ก่อกระสอบทรายทำแนวป้องกันน้ำล้นตลิ่ง และกำจัดกิ่งไม้ที่ติดบริเวณสะพานซึ่งขวางทางน้ำไหล พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพให้แก่ทหารกองหนุน, ทหารผ่านศึก และผู้พิการ ในพื้นที่บ้านทุ่งสะโตก ตำบลทุ่งสะโตก อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่2. ศูนย์การฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 33 จัดกำลังพล และนักศึกษาวิชาทหารโรงเรียนสันป่าตองวิทยาคม ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอดอยหล่อ, องค์การบริหารส่วนตำบลดอยหล่อ และชาวบ้าน    ในพื้นที่ ร่วมกันดำเนินการขนย้ายสิ่งของ, นำกระสอบบรรจุทรายวางกั้นไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมที่พักอาศัย,       ขุดลอกคลอง, สร้างทำนบบริเวณคลองส่งน้ำ บ้านเหล่าเป้า ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อปัจจุบัน สถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดเชียงใหม่ ได้คลี่คลายลงตามลำดับ แต่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย    มณฑลทหารบกที่ 33 ยังคงเฝ้าระวังและมีการเตรียมความพร้อมในการเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยทหาร ได้มีการเตรียมความพร้อมและซักซ้อมการปฏิบัติอยู่เสมอ และเมื่อเกิดเหตุจากภัยพิบัติต่างๆ ขอให้ท่านได้กรุณาแจ้งข่าวสารได้ที่หน่วยทหารใกล้บ้าน หรือศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 หมายเลขโทรศัพท์ 055 – 242859, เฟซบุ๊ก : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 3 และ เว็บไซต์ : กองทัพภาคที่ 3 (ทภ.3) http://army3.rta.mi.th/ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติเป็นการเร่งด่วนต่อไป!!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ ภูธร​0619525644!!!!! 

กิจกรรม Army Chef กองทัพภาคที่ 3 เตรียมความพร้อมเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในยามภัยพิบัติ

วันที่ 29 กันยายน 2564 กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 152 ศูนย์เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พันโท หญิง บุญฑริกา ฑีฆวาณิช ผู้ช่วยกองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 เป็นผู้แถลงข่าวฯ มีสาระสำคัญดังนี้.- กองทัพภาคที่ 3 ได้ริเริ่มจัดกิจกรรม Army Chef กองทัพภาคที่ 3 ตามนโยบายกองทัพบก ในแนวความคิด การนำวัตถุดิบอาหารที่ปลอดสารพิษจากโครงการพระราชดำริ “โครงการทหารพันธุ์ดี กองทัพภาคที่ 3”     มาประกอบอาหารพื้นบ้านภาคเหนือแบบเรียบง่าย ปรุงสุก ใหม่ สด สะอาด อุดมไปด้วยโภชนาการ และความอร่อย บนรถครัวสนามของกองทัพบก สำหรับมอบให้กับพี่น้องประชาชนในยามเกิดภัยพิบัติ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้เกิดขึ้น โดยได้เชิญข้าราชการและทหารกองประจำการที่เป็นสุดยอดฝีมือพ่อครัว รถครัวสนามของกองทัพบก หน่วยละ 3 นาย จากทั่วภาคเหนือ ใน 15 หน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 มาฝึกฝนและแข่งขันพัฒนาฝีมือด้วยการประกอบอาหารเลิศรส ในวันที่ 22 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ณ ลานอเนกประสงค์ กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ในการนี้ขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนทุกท่านที่มีความสนใจ สามารถเรียนรู้การประกอบอาหารตามแบบ Army Chef กองทัพภาคที่ 3 เพื่อปรุงรับประทานเองที่บ้านได้ ในยามวิกฤตโรคโควิด-19 ซึ่งมีรายการอาหาร (เมนู) เพื่อการเรียนรู้ มากกว่า 40 รายการ โดยสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เพจ “Facebook ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3” ต่อไป สำหรับรถครัวสนามของกองทัพบก นั้น เกิดจากดำริของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (เมื่อปี 2553) และเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 จึงได้สั่งการให้ปรับปรุงรถครัวสนามเป็นรถบรรทุกที่มีอุปกรณ์จำเป็นในการประกอบอาหารครบถ้วนในรถคันเดียว เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย        ไปตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว ในการปฏิบัติภารกิจของทางราชการ ทั้งงานในราชการสนาม                    และประกอบเลี้ยง ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัยหรือตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ด้วยการสร้างเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ ความยาวส่วนบรรทุก 5.5 เมตร กว้าง 2 เมตร เครื่องยนต์ดีเซล 5000 ซีซี ติดกล้องสำหรับมองภาพด้านหน้า/หลัง ด้านหลังติดไฟพรางทางยุทธวิธี มีอุปกรณ์สำหรับประกอบเลี้ยง และชุดเลี้ยงดูวางอยู่ในตำแหน่งส่วนบรรทุกส่วนครัวทั้งด้านขวาและด้านซ้าย โดยส่วนบรรทุกส่วนครัวด้านขวาประกอบด้วยอ่างล้างจาน, ปั๊มน้ำพร้อมอุปกรณ์และระบบเชื่อมต่อน้ำภายนอก, หัวเตาแก๊ส 2 หัวเตาพร้อม  โครง, เตาสำหรับวางกระทะและหม้อต้ม, เตาทอดอาหารแบบ Deep–Frying, ตู้เก็บของ และถังเก็บน้ำดื่มขนาดไม่น้อยกว่า 200 ลิตร ชนิดเปิด - ปิดด้วยเท้าเหยียบ สำหรับส่วนครัวด้านซ้ายประกอบด้วยถังบรรจุข้าวสารขนาด 60 กิโลกกรัม, หม้อหุงข้าวแบบใช้แก๊สขนาดความจุ 10 ลิตร จำนวน 4 หม้อ, ตู้เก็บของและ    ถังแก๊สขนาดความจุแก๊ส 48 กิโลกรัม จำนวน 4 ถัง, ตู้แช่แบบบานเปิด 4 บาน ความจุ 36 คิวบิก, ตู้เก็บของ, ถังหูหิ้ว กระทะใบบัว, หม้อต้ม, เครื่องบด/สับอาหาร, โต๊ะประกอบเลี้ยง และมีระบบไฟส่องสว่างในจุดต่างๆ ของตัวรถ โดยรถครัวสนาม 1 คัน จะมีเจ้าหน้าที่ทหารประจำรถ ทั้งหมด 12 นาย แบ่งเป็น นายทหารควบคุมรถ 1 นาย, พลขับ 2 นาย, ช่างประจำรถ 2 นาย, พ่อครัว 2 นาย, และน้องๆ ทหารกองประจำการ อีก 5 นาย คอยเป็นลูกมือ ร่วมกันเป็นทีม เรียกว่า ทีมรถครัวสนามของกองทัพบก และโดยประสิทธิภาพของรถครัวสนามคันนี้ทำให้สามารถผลิตข้าวกล่อง (Box Set) ได้ถึง 3,000 กล่อง/มื้อ/คัน จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า กองทัพบก โดย กองทัพภาคที่ 3 พร้อมที่จะเคียงข้างพี่น้องประชาชน ในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในยามภัยพิบัติในทุกมิติ ให้พ้นจากวิกฤตการณ์ ในทุกโอกาส พร้อมที่จะทำให้สังคมไทยกลับมาเข้มแข็งและประเทศเดินหน้าต่อไปในอนาคตต่อไป!!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ ภูธร​0619525644!!!!! 

Army Chef กองทัพภาคที่ 3 ประกอบอาหารบนรถครัวสนาม มอบให้พี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย

วันที่ 29 กันยายน 2564 กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 152 ศูนย์เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พันเอก นายแพทย์ วิโรจน์ ชนม์สูงเนิน ผู้ช่วยกองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 เป็นผู้แถลงข่าวฯ มีสาระสำคัญดังนี้.- ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศแจ้งเตือนภัย ในช่วงวันที่ 24 - 26 กันยายน 2564 พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” แล้ว หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ และเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ส่งผลทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝน เพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 จัดรถครัวสนามของกองทัพบก พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ Army Chef ประกอบอาหารปรุงสุก สะอาด สด ใหม่ อุดมไปด้วยโภชนาการและความอร่อย มอบให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ดังนี้1. เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2564 มณฑลทหารบกที่ 39 จัดรถครัวสนาม เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ณ วัดบ้านซ่าน ตำบลบ้านซ่าน อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ในการนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ปฏิบัติราชการตรวจการช่วยเหลือประชาชน และได้ร่วมประกอบอาหาร ร่วมกับ Army Chef มณฑลทหารบกที่ 39 ในรายการอาหารกระเพราไก่ ไข่ดาว ลูกชิ้นทอด มอบให้กับพี่น้องประชาชน จำนวน 500 กล่อง ด้วย2. เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 14 จัดรถครัวสนาม เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ณ บ้านไพรสวรรค์ ตำบลปางตาไว อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร มอบให้กับพี่น้องประชาชน จำนวน 300 กล่อง พร้อมน้ำดื่ม 500 ขวด รวมทั้งได้ร่วมถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ด้วย3. เมื่อวันที่ 26 – 28 กันยายน 2564 กองพันส่งกำลังและบริการที่ 23 กองบัญชาช่วยรบที่ 3 ร่วมกับ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 9 พิษณุโลก จัดรถครัวสนาม เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ณ พื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย มอบให้กับพี่น้องประชาชน จำนวน 3,200 กล่อง ด้วย จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 3 มีความพร้อมที่จะสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ทางทหาร รวมทั้งบูรณาการศักยภาพทางการทหารในทุกๆ ด้านของกองทัพบก เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากวิกฤตทุกโอกาส!!!! ต้อย​ รอบ​รั้ว​ ภูธร​0619525644!!!!! 

ศรีสะเกษ ผู้ว่านำนายกกาชาดมอบเงินและสิ่งของพระราชทานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยอำเภอเมืองศรีสะเกษ ,

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณบ้านเลขที่ 77 บเราโนน ม.8  ต.น้ำคำ อ.เมืองศรีสะเกษ  จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา  พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ  พร้อมด้วย นางมัลลิกา พุฒิชาติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ  ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีมอบเงินและสิ่งของพระราชทานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้แก่ครอบครัวของ นายธัชพล ฉัตรสายทอง เจ้าของบ้าน โดยมี นายบุญประสงศ์ นวนสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ นายจิรศักดิ์ ศรีอร่าม ปลัดอำเภออาวุโส รักษาการแทนนายอำเภอเมืองศรีสะเกษ  ในฐนะกรรมการมูลนิธิราชประชานุคราะห์ประจำจังหวัด  นายสุพิชัย  หล่าสกุล  ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ นายสมบัติ ศรีอินทร์ นายกเทศมนตรีตำบลน้ำคำ หัวหน้าส่วนราชการ ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดศรีสะเกษกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับและร่วมพิธีมอบเงินและสิ่งของพระราชทานเป็นจำนวนมาก    เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นต่อไป  นายบุญประสงศ์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ  กล่าวว่า ด้วยเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 เวลา 22.30 – 23.45 น. ได้เกิดอัคคีภัย บริเวณบ้านเลขที่ 77 บ้านโนน หมู่ที่ 8 ตำบลน้ำคำ  อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ทำให้ที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายบางส่วน จำนวน 1 หลัง และทรัพย์สินอื่น ๆ ได้รับความเสียหาย มูลค่าความเสียหาย 44,720 บาท ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 1 ครัวเรือน 2 คน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต  โดยมีนายธัชพล ฉัตรสายทอง อายุ 77 ปี เป็นเจ้าของบ้าน อาชีพข้าราชการตำรวจบำนาญ  มีรายได้ประมาณ  13,000 บาทต่อเดือน ซึ่งอาศัยอยู่กับภรรยาและในวันนี้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ/ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัดศรีสะเกษได้อนุมัติเงินจำนวน 26,020 บาท  และอนุมัติเงินในการจัดซื้อสิ่งของดำรงชีพเบื้องตันเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ในครั้งนี้  และมีหน่วยงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังนี้ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ มอบเงินจำนวน 2,000 บาท และสิ่งของช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย  ชมรมแม่ข้านมหาดไทยจังหวัดศรีสะเกษ มอบสิ่งของช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดศรีสะเกษ (ฝ่ายทหาร) มอบผ้าห่มช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ มอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉินแก่ผู้ประสบภัย จำนวน 2,000 บาท  และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ มอบผ้าห่มช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอัคคีภัยด้วยข่าว/ภาพ ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ กำนันเฒ่าบ้ากามลวงเหลนวัย 15 ปี เข้ารีสอร์ทที่ถ่ายคลิปแบล็คเมย์ แม่ร้องสื่อนานเกือบครึ่งปีคดีไม่คืบ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 ก.ย. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี พร้อมด้วย น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี บุตรสาว ซึ่งยังเรียนอยู่ชั้น ปวช.ปี 3 สถาบันแห่งหนึ่ง ชาว อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวว่า บุตรสาวตน คือ น.ส.บี ถูก นายเขียว หรือกำนันเขียว (นามสมมุติ) อายุ 57 ปี กำนันตำบลแห่งหนึ่ง ใน อ.ขุนหาญ ลวงไปข่มขืนกระทำชำเราที่รีสอร์ท และได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ขุนหาญ เมื่อเดือน พ.ค. 64 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เวลาผ่านไปนานเกือบครึ่งปีแล้วคดีไม่คืบหน้า น.ส.เอ เล่าว่า ตนมีสามีและลูก 2 คน เป็นชาย 1 คน อายุ 3 ขวบ และ หญิง 1 คน อายุ 17 ปี  เมื่อช่วงประมาณปี 2562 ขณะที่ น.ส.บี อายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ ได้มี นายเขียว ซึ่งเป็นเครือญาติและมีบ้านอยู่ฝั่งตรงกันข้าม มีตำแหน่งเป็นกำนัน และมีภรรยาแล้ว ได้ออกอุบายชักชวน น.ส.บี ไปเกี่ยวหญ้าที่สวน โดยบอกว่าจะมีน้องชายและแม่ออกไปด้วย จากนั้น น.ส.บี จึงยอมขึ้นรถไปด้วย เมื่อขับรถออกจากบ้านไปได้ไม่นาน กำนันเขียว ได้หยิบขวดน้ำดื่มยื่นให้ น.ส.บี พร้อมกำชับให้ดื่มน้ำ เมื่อ น.ส.บี ได้ดื่มน้ำไปแล้ว ได้มีความรู้สึกง่วงนอนสะลึมสะลือ จากนั้นก็หลับไปไม่รู้ตัว และมารู้สึกตัวอีกทีปรากฏว่ามานอนเปลือยกายอยู่ในรีสอร์ทพร้อมกับกำนันเขียว    ซึ่งกำนันเขียว ได้พูดจาข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะนำคลิปที่แอบถ่ายไว้ขณะร่วมเพศ ไปประจานให้อับอาย ซึ่ง น.ส.บี รู้สึกช็อกร้องไห้และหวาดกลัวพูดอะไรไม่ออก โดยหลังจากนั้นมา กำนันเขียว ก็ใช้คำขู่เดิมเพื่อขอร่วมหลับนอนกับ น.ส.บี มานานเกือบ 2 ปี ด้วยความเป็นแม่ตนรู้สึกถึงความผิดปกติของลูก เพราะค่อนข้างซึม เงียบเหงา พูดน้อยและไม่ค่อยร่าเริง จึงพยายามเค้นถามแต่ น.ส.บี ก็บอกว่า ไม่มีอะไร  ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พ.ค. เวลาประมาณ 09.00 น. ขณะที่ น.ส.บี กำลังฝึกงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใน อ.ขุนหาญ กำนันเขียว ได้โทรศัพท์มาชักชวนไปรีสอร์ท โดยนัดพบกันเวลา 13.00 น. เมื่อถึงเวลา กำนันเขียว ได้ขับรถยนต์มาจอดรับแล้วพาไปเข้ารีสอร์ท ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้นได้กระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง  ในขณะนั้น น.ส.บี ทนพฤติกรรมของ นายเขียว ไม่ไหวและอยากหลุดพ้นออกจากวงจรอุบาทนี้ เมื่อรู้พิกัดที่ตั้งรีสอร์ทแล้ว น.ส.บี จึงได้โทรศัพท์มาแจ้งให้ตนไปช่วยเหลือ เมื่อไปถึงที่รีสอร์ทดังกล่าว ถึงกับช็อกเมื่อพบว่า กำนันเขียว อยู่กับลูกสาวตนในห้องสองต่อสอง ไม่คาดคิดว่าคนใกล้ตัวและยังเป็นเครือญาติกัน จะทำร้ายกันได้ลงคอขนาดนี้ ไม่เว้นแม้กระทั่งหลาน เหลน โดย กำนันเขียว กล่าวแต่เพียงว่าขอโทษ พร้อมหันไปต่อว่า น.ส.บี ว่า “ไม่น่าทำกับตาอย่างนี้ โทรไปบอกแม่ทำไม” จากนั้นตนได้พาลูกสาว ไปตรวจภายในที่ รพ.ขุนหาญ เพื่อเป็นหลักฐาน และเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ขุนหาญ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายเขียว จนถึงที่สุด แต่แล้วเวลาก็ผ่านเลยไปจนเกือบครึ่งปีแล้ว เรื่องดังกล่าวยังไม่คืบหน้า ประกอบกับ กำนันเขียว ยังมีพฤติกรรมเรื่องเพศบ่อยครั้ง และมีเรื่องลักษณะนี้อยู่เป็นประจำ จึงได้เข้าร้องทุกข์กับสื่อมวลชนเพื่อเป็นสื่อกลางในการช่วยเหลือต่อไป.ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ธ.ก.ส.นครสวรรค์ จัดอบรมโครงการฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพลูกค้าพักชำระหนี้ (Kick off) เพื่อลดภาระหนี้ของเกษตรกร

วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 น. ที่ไร่แนนแนน หมู่ที่ 7 ตำบลเนินขี้เหล็ก อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ นายบดินทร์ เกษมศานติ์ ...