ศรีสะเกษ คืนเดียวไฟไหม้วอด 2 แห่งทั้งศูนย์ขายรถอีซูซุและร้านขายถุงพลาสติค ผกก.สภ.เมืองเร่งตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อเวลา 19.15 น. วันที่ 25 ต.ค. 64  ร.ต.อ.อภิสิทธิ์   สุโพธิ์  ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า  เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ศูนย์จำหน่ายรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ  ถ.ศรีสะเกษ – กันทรลักษ์ อ.เมืองศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เทพพิทักษ์   แสงกล้า  ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.ท.พิเนตร  ดาวเรือง รอง ผกก.(ป.) พ.ต.ต.ทนงศักดิ์  ยะสูงเนิน สวป.สภ.เมือง และได้ประสานงานไปยังเทศบาลเมืองศรีสะเกษ เพื่อขอรถดับเพลิงให้มาช่วยในการดับเพลิงอย่างเร่งด่วน โดยไฟได้ลุกไหม้ที่ห้องเก็บเอกสารและห้องทำงานของพนักงานชั้นบนของโชว์รูมรถอีซูซุ  เนื่องจากบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้เป็นที่เก็บเอกสาร ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์ ได้ระดมฉีดน้ำเพื่อดับเพลิงไหม้กันอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของศูนย์จำหน่ายรถอีซูซุได้เร่งเคลื่อนย้ายรถยนต์ จำนวน  5  คัน ออกจากโชว์รูมกันอย่างโกลาหล ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ใช้เวลาประมาณ  40  นาที ก็สามารถที่จะควบคุมเพลิงเอาไว้ได้จากการสอบสวนเบื้องต้น  นายสุทัศน์  พรหมชาติ  อายุ 62  ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 2 ต.บ่อแก้ว อ.วังหิน                    จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยอาการที่ยังไม่หายจากความตื่นเต้นว่า ขณะที่ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณป้อมยามทางเข้าบริษัทอยู่นั้น ตนได้ยินเสียงดังปังปัง 2 ครั้ง ขึ้นที่บริเวณที่เกิดเหตุ ตนจึงได้รีบเดินเข้าไปตรวจสอบดูพบว่า มีควันพวยพุ่งออกมา และเกิดไฟไหม้ ตนจึงได้รีบวิทยุแจ้งให้หัวหน้า รปภ.ทราบ และได้โทรแจ้ง 191 และ 199 เพื่อแจ้งเหตุและขอรถดับเพลิงมาช่วยในการดับเพลิงอย่างเร่งด่วน ซึ่งตนไม่ทราบว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากสาเหตุอะไรทางด้าน พ.ต.อ.เทพพิทักษ์  แสงกล้า  ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่ได้สอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์แล้ว แจ้งว่า มีเสียงดังขึ้นที่ชั้น 2 ของโชว์รูม และเกิดเพลิงไหม้ขึ้นมา ทำให้ทรัพย์สินของบริเวณที่เกิดเหตุเสียหายจำนวนมาก  ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ จากนั้น  จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ต่อมาเวลา 21.13 น.คืนวันเดียวกันนี้  พ.ต.อ.เทพพิทักษ์  แสงกล้า  ผกก.สภ.เมือง                                   ศรีสะเกษ  ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุโพธิ์ทองว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ร้านพรเจริญพลาสติก ตั้งอยู่เลขที่ 1191                       ถ.ราชการรถไฟ 3 ต.เมืองใต้ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงได้รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิเนตร ดาวเรือง รอง ผกก.(ป) พ.ต.ท.เสกสรรค์ อุทโธ รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ต.ทนงศักดิ์ ยะสูงเนิน สวป.ร.ต.อ.อภิสิทธิ์  สุโพธิ์  ร้อยเวรสอบสวน  และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เมื่อไปถึงพบว่าไฟกำลังลุกไหม้บริเวณชั้นล่างของตึกแถว 3 ชั้น ซึ่งบริเวณชั้นล่างเป็นที่เก็บสินค้าจำพวกถุงพลาสติกทุกประเภท ไฟได้โหมลุกไหม้อย่างรวดเร็วมาก  พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ จึงได้ประสานงานไปยังเทศบาลเมือง                  ศรีสะเกษ เพื่อขอรถดับเพลิงมาช่วยระดมดับเพลิงอย่างเต็มที่ ใช้เวลาประมาณ  25  นาที  จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยสินค้าภายในร้านโดนไฟไหม้เสียหายยับเยิน และขณะที่กำลังเกิดเพลิงไหม้นั้น ทราบว่าบริเวณชั้นบนของจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีคนติดอยู่จำนวน 2 คน จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจิตต์                           ศรีสะเกษธรรมสถาน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์ ขึ้นไปนำตัวผู้ที่พักอาศัยอยู่ชั้นบนของห้องแถวออกมาได้ โดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย  เนื่องจากสำลักควันไฟ จึงได้รีบนำตัวส่งไปยัง                            รพ.ศรีสะเกษ เพื่อทำการรักษาพยาบาลต่อไปพ.ต.อ.เทพพิทักษ์  แสงกล้า  ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้น ยังไม่ทราบว่าสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดจากสาเหตุใด จะต้องรอการพิสูจน์ทราบจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ เสียก่อน หลังจากทราบข้อเท็จจริงแล้ว จึงจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า  การเกิดเพลิงไหม้ทั้ง 2 ครั้งนี้ นับว่า เป็นครั้งแรกของ จ.ศรีสะเกษ ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ติดต่อกันถึง 2 ครั้ง 2 แห่ง และอยู่ในอำเภอเดียวกัน ระยะเวลาเกิดเหตุห่างกันประมาณ 1 ชม.เศษเท่านั้น ทำให้ทรัพย์สินของจุดที่เกิดเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งจะได้ทำการตรวจสอบทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายต่อไป   

ภาพ / ข่าว  ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ