ต้อยทูเดย์ออนไลน์ Toytodayonline

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2565

แพทย์ทหารเตือนภัย “โรคพิษสุนัขบ้าหรือโรคกลัวน้ำ”

โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เชื้อจะเข้าทางบาดแผล ผ่านทางกัด ข่วน เลีย หรือสัมผัสกับน้ำลายของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมทุกชนิดที่มีเชื้อ โดยสัตว์ที่พบเป็นโรคพิษสุนัขบ้าบ่อยที่สุดคือสุนัข รองลงมาคือแมว และโค โรคนี้สามารถพบได้ตลอดทั้งปี ระยะตั้งแต่รับเชื้อถึงแสดงอาการอาจยาวนานตั้งแต่ 1 สัปดาห์ จนถึง 1 ปี อาการในคน คือ มีไข้ ปวดศีรษะ คันรุนแรงบริเวณบาดแผล คลุ้มคลั่ง กลัวแสง กลัวลม กลืนอาหารไม่ได้โดยเฉพาะของเหลว และหายใจลำบาก เนื่องจากกล้ามเนื้อกระบังลมเป็นอัมพาต เมื่อผู้ติดเชื้อแสดงอาการแล้ว จะไม่สามารถรักษาให้หายได้ และเสียชีวิตทุกราย โดยเฉพาะในช่วงนี้ อากาศร้อนอาจทำให้สัตว์หงุดหงิดได้ง่าย ควรระวังตนเองและดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดไม่ให้ถูกสุนัข-แมว กัดหรือข่วน เพราะอาจได้รับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าได้ สำหรับโรคพิษสุนัขบ้าสามารถป้องกันได้ ดังนี้ 1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสุนัข แมว และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่ไม่ทราบประวัติการฉีดวัคซีน และนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นประจำทุกปี  2. ป้องกันไม่ให้สุนัขกัดหรือทำร้าย ด้วยหลัก “5 ย.” ได้แก่ 1) อย่าแหย่ อาจโดนกัดหรือข่วนได้       2) อย่าเหยียบ บริเวณลำตัว ขา หรือหางของสัตว์ 3) อย่าแยก สัตว์ที่กำลังกัดกัน 4) อย่าหยิบ อาหารขณะสัตว์กำลังกิน และ 5) อย่ายุ่ง กับสัตว์ที่ไม่รู้จักคุ้นเคย 3. หากถูกสุนัขหรือแมว กัด-ข่วน ขอให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่หลายๆ ครั้ง อย่างเบามือ    ใส่ยาฆ่าเชื้อ หรือเบตาดีนที่บาดแผลทันทีหลังล้างแผลเสร็จ จากนั้นไปพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยและพิจารณาฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และให้กักสุนัข-แมว 10 วัน เพื่อสังเกตอาการ หากสัตว์ตายให้รีบแจ้งปศุสัตว์ในพื้นที่ เพื่อส่งตรวจหาโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ ที่สำคัญควรฉีดวัคซีนตามแพทย์นัดให้ครบชุด          ทั้งนี้ ขอแนะนำเจ้าของสัตว์เลี้ยงว่า การป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน โดยนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนเมื่ออายุ 2-4 เดือนขึ้นไป และฉีดซ้ำทุกปี ตามหน่วยบริการฉีดวัคซีนสุนัขบ้าฟรี ในพื้นที่ของจังหวัดต่างๆ หากพบเห็นสัตว์ที่สงสัยว่าอาจเป็นโรคพิษสุนัขบ้า คือมีอาการหางตก เดินโซเซ น้ำลายย้อย ลิ้นห้อย ตาขวาง ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์หรือผู้นำชุมชนทันที ในการนี้ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 และแพทย์ทหาร จึงมีความห่วงใยต่อข้าราชการทหาร ในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 และพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ต่อโรคภัยดังกล่าว ทั้งนี้ หากตนเองหรือคนรอบข้างถูกสุนัขหรือแมว กัด-ข่วน และมีอาการบ่งชี้ หรือสงสัยว่าป่วย ขอให้ได้ไปพบแพทย์ ณ โรงพยาบาลทหารทั้ง 10 แห่งในพื้นที่ภาคเหนือ หรือโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อคัดกรอง วินิจฉัย และเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็วคณะบรรณาธิการข่าว กองทัพภาคที่ 330 มีนาคม 2565

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

#ช่วงหยุดยาว-แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่​ "ทุ่งบัวแดง​ เฟส​ 2" ดอกใหญ่​สวยงาม​ เปิดให้ชมครั้งแรกในรอบ 4 ปี

            บึงบอระเพ็ด​พบทุ่งบัวแดง​ เฟส​ 2  ดอกบัวใหญ่บานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งกว่า​ 2 พันไร่​ พิกัดอยู่ที่​ ตำบลวังมหากร​ อ.ท่าต...