นครทูเดย์ออนไลน์: พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการพัฒนาพื้นที่บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ดูสะดือบึง

เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 8 มีนาคม 2565 พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พันตำรวจเอกธรรมนิธิ วนิชย์ถนอม รองเลขาธิการพระราชวัง ฝ่ายที่ประทับ พลตรีปริญญ์ รื่นภาควุฒิ ประจำกรมราชเลขานุการในพระองค์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจติดตามการพัฒนาพื้นที่บึงบอระเพ็ด ณ ห้องประชุมเสือพ่นน้ำ บึงบอระเพ็ด ตำบลแควใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ โดยมี นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ นางสาว ชุติพร เสชัง รองผู้ว่าราชการฯ และพลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายกอบจ.นครสวรรค์ ตัวแทน อปท.ที่เกี่ยวข้องทั้ง 7 แห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ เพื่อรับฟังการตรวจติดตามการพัฒนาพื้นที่บึงบอระเพ็ด จากนั้นคณะฯ ได้เดินทางไปยังท่าเรือองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อโดยสารเรือ 2 ชั้น ไปยังสะดือบึงบอระเพ็ด (วัดเกาะ)สำหรับบึงบอระเพ็ดมีพื้นที่ประมาณ 132,639 ไร่ 34 ตารางวา โดยครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของ 3 อำเภอในจังหวัดนครสวรรค์ ได้แก่ อ.ท่าตะโก อ.ชุมแสง และ อ.เมืองนครสวรรค์ ที่ผ่านมาการใช้ประโยชน์จากบึงบอระเพ็ดอย่างไม่มีระบบและไม่คำนึงถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงระบบนิเวศ ส่งผลกระทบต่อความเสื่อมโทรมของบึงบอระเพ็ดอย่างต่อเนื่อง จนเป็นเหตุให้เกิดการเสื่อมสลายและการสูญพันธ์ของทั้งพืชและสัตว์ในพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปลาเสือตอและนกเจ้าฟ้าสิรินธรซึ่งเป็นสัตว์ที่พบได้แห่งเดียวในประเทศไทย บึงบอระเพ็ดเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการ น้ำทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง ในลุ่มน้ำนี้ได้ จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา บึงบอระเพ็ดยังไม่มีการบริหารจัดการที่ชัดเจนทั้ง ระบบประกอบกับมีพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของหลายหน่วยงาน รวมถึงมีการทับซ้อนกันในเรื่องของกฎหมายที่แต่ละหน่วยงานบังคับใช้อยู่ ทำให้เกิดความสับสนในเชิงการบริหาร และขั้นตอนในการปฏิบัติในเรื่องที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ตอกย้ำทำให้การจัดการบึงบอระเพ็ดทำได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรจะเป็นด้านจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับของบึงบอระเห็ดตามกระบวนการต่างๆ พบสาเหตุและปัจจัยหลัก 6 ประการ ดังต่อไปนี้คือ 1. ปัญหาน้ำท่วม 2. ปัญหาน้ำแล้ง 3. ปัญหาด้านระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม จากการเข้าไปใช้ประโยชน์ในฐานทรัพยากรธรรมชาติของบึงบอระเพ็ด ที่ยังขาดระบบและการบริหารจัดการที่เหมาะสม4. ปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคม การบุกรุกพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อความไม่มั่นคงในด้านที่ดินทำกินของประชาชนในพื้นที่ที่ไม่สามารถมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้ และมีบางส่วนที่มีที่ทำกินอยู่ในเขตห้ามล่า ซึ่งมีข้อกฎหมายที่เข้มงวดมากในกิจกรรมที่มีอยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทับซ้อนของกฎหมายจากหลายหน่วยงาน 5. ปัญหาด้านความขัดแย้งในพื้นที่การเข้ามาใช้ประโยชน์จากฐานทรัพยากรของบึงบอระเพ็ดเป็นระยะเวลาต่อเนื่องยาวนาน 6. ปัญหาด้านการบริหารจัดการ การแก้ไขปัญหาที่เกิดกับบึงบอระเพ็ดที่ผ่านมายังขาดการบูรณาการอย่างจริงจังของหน่วยงานรับผิดชอบต่าง ๆจึงเห็นควรที่กำกับและเร่งรัดเป็นตามแผนทั้งในระดับจัง และประเทศ โดยการเร่งฟื้นฟูบึงบอระเพ็ด ต้องให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ไม่ให้เกิดการซับซ้อน รวมไปถึงประชาชนยังสามารถใช้ระบบนิเวศน์ไม่ให้ถูกทำร้ายเสื่อมโทรม และส่งเสริมผลผลิตและการเพิ่มมูลค่าสัตว์น้ำบึงบอระเพ็ด เพื่อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืนหลังจากรับฟังบรรยายสรุปแล้ว พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายกอบจ.นครสวรรค์ รายงานถึงการดำเนินงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย 2 ประการคือ1. การดำเนินการซ่อมแพลงเรือ ซึ่งได้มีการออกแบบ กำหนดงบประมาณ ระยะเวลาดำเนินการเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 5 เดือนจึงจะสำเร็จ 2. การซ่อมแซมถนนระยะทาง 600 เมตร ซึ่งแต่เดิมเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม จึงทำการเกรด บด อัด และปูพื้นแอสฟัลติกเป็นที่เรียบร้อยแล้วต่อจากนั้นพลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการฯพร้อมคณะร่วมลงเรือ ชมสภาพทั่วไปของบึงบอระเพ็ด โดยมีพลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายกอบจ.นครสวรรค์ บรรยายถึงสภาพทั่วไป สภาพปัญหาที่ควรได้รับการดูแลแก้ไข พร้อมทั้งเดินทางไปชมสะดือบึงบอระเพ็ด ซึ่งใช้เป็นที่ตักน้ำเพื่อนำไปใช้ในพระราชพิธีที่สำคัญ อันเป็นการเสร็จสิ้นการเยี่ยมชมบึงบอระเพ็ด