วันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2566
พพ. จัดฝึกอบรมหลักสูตร “เทคนิคการตรวจวิเคราะห์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ในอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม” ภายใต้ “โครงการพัฒนาบุคลากรของวิทยาลัยอาชีวศึกษาในการสำรวจ ตรวจวัด จัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน” รุ่นที่ 5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หนุนสถานประกอบการ SMEs ในพื้นที่ หวังเป็นเครือข่าย “ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์พลังงานเชิงพื้นที่” ร่วมกันขับเคลื่อนการอนุรักษ์พลังงานของประเทศอย่างยั่งยืน
(20 ก.ค.66) ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การใช้พลังงานของประเทศไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2566 ที่มีการใช้พลังงานขั้นสุดท้าย 23,052 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ (KTOE) ซึ่งถือว่ามากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง ร้อยละ 8.28 โดยภาคส่วนที่มีการใช้พลังงานมากที่สุดคือภาคอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลังงานถึงร้อยละ 42.4 จากการใช้พลังงานรวมของประเทศ ดังนั้น พพ. ซึ่งมีภารกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายลดความเข้มข้นการใช้พลังงานหรือ Energy Intensity ลงให้ได้ร้อยละ 30 ในปี 2579 ตามแผนอนุรักษ์พลังงาน EEP2018 และเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2065 จึงต้องมุ่งเน้นในการดำเนินการมาตรการต่างๆ กับภาคอุตสาหกรรม ทั้งการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นกับโรงงานควบคุม การส่งเสริมทางด้านการเงินในการลงทุนปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือ Direct Subsidy 20/80 รวมไปถึงการสนับสนุนองค์ความรู้ทางด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดผ่านการพัฒนาบุคลากรในรูปแบบต่างๆดร.ประเสริฐ กล่าวว่า พพ. จึงได้จัดทำโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “เทคนิคการตรวจวิเคราะห์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ในอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม” ภายใต้ “โครงการพัฒนาบุคลากรของวิทยาลัยอาชีวศึกษาในการสำรวจ ตรวจวัด จัดเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน” รุ่นที่ 5 โดยจัดขึ้นเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่คณาจารย์จากวิทยาลัยอาชีวศึกษา จำนวน 200 คน จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาจำนวน 100 แห่ง ให้สามารถเข้าสำรวจ ตรวจวัด และวิเคราะห์การใช้พลังงาน หรือการทำ Energy Audit ให้แก่สถานประกอบการ SMEs ในพื้นที่ได้ เกิดเป็นเครือข่าย “ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์พลังงานเชิงพื้นที่” อันจะส่งผลให้สถานประกอบการ SMEs ทราบถึงกระบวนการหรือเครื่องจักร/อุปกรณ์ที่มีการสูญเสียทางด้านพลังงาน รวมทั้งแนวทางในการบริหารจัดการการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจของสถานประกอบการ SMEs โดย พพ. ได้มองว่าสถานประกอบการ SMEs ถือเป็นอีกภาคส่วนของอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญของประเทศ เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ผ่านมา จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาลในช่วงฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ “พพ. คาดหวังว่าจะสามารถสร้างผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์พลังงานเชิงพื้นที่ในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนให้ กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ทั่วประเทศ มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัด และเกิดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการอนุรักษ์พลังงานของประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้การอนุรักษ์พลังงาน เกิดความยั่งยืนและเกิดความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศต่อไปในอนาคต” ดร.ประเสริฐ กล่าวทิ้งท้าย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
แพทย์ทหาร แนะประชาชน “ระวังไข้หวัดใหญ่” รู้ก่อน รู้ทัน ป้องกันได้
จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ พบว่าในช่วงนี้สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ...
-
ที่วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง ตำบลม่วงตี๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน พระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวั...
-
น่าน – จังหวัดน่าน เปิดยิ่งใหญ่ตระการตา งานประเพณีหกเป็งนมัสการพระมหาธาตุภูเพียงแช่แห้ง ประจำปี 2568เย็นวานนี้ 7 มีนาคม 2567 เวลา 17.00 น. ที่ วัดพระธาตุแช่แห้ง (พระอารามหลวง) อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน พระร...
-
วันที่ 8 มีนาคม 2568 ณ สนาม ท.เจริญพืชผล ตำบลเนินขี้เหล็ก อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองรัฐ...
-
วันนี้ 28 มกราคม 2568 เวลา 17.00 น. ที่ศูนย์กีฬาอเนกประสงค์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ (ย่านมัทรี) จังหวัดนครสวรรค์ นางสาวซาบีดา ...
-
การขุดคลองสาธารณะเพื่อทำสะดือน้ำสำหรับผลิตประปาหมู่บ้าน เป็นวิธีแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือตนเองในเบื้องต้นของผู้นำองค์กรปกครองส่วนท...
-
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบดินทร์ เกษมศานติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานเปิดเวทีรณรงค์การสร้างการรับรู้แล...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น