นครทูเดย์ออนไลน์: บัญชา เดชเจริญศิริกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคท้องที่ไทย ขออภิปรายสนับสนุนเรื่องญัตติในเรื่อง สาเหตุปัญหาตามประเด็นในญัตติมาจากการละเลยของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ

บัญชา เดชเจริญศิริกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคท้องที่ไทย ขออภิปรายสนับสนุนเรื่องญัตติในเรื่องนี้ สาเหตุปัญหาตามประเด็นในญัตติมาจากการละเลยของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ การไม่จริงจังหลายรัฐบาลที่ผ่านมา สืบเนื่องจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องไม่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของบ้านเมืองในการเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนไปมากแล้ว และเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งของ กรมการขนส่งทางบก เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ใช้ดุลพินิจแสวงหาผลประโยชน์ทั้งที่เป็นเงินและอามิสสินจ้างอื่น ๆ การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาแบบไฟไหม้ฟาง มีข้อเสนอให้แก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องทั้งก่อน และรัฐประหารมารวมทั้งหมดมาแล้ว ๓ ครั้ง กล่าวได้เป็นปัญหาเรื้อรังมาอีกเป็นปัญหาระยะหนึ่งของสังคมไทย ก็คือการเก็บส่วยที่ผ่านมาที่เห็นเป็นข่าวกันมาตลอด ในเรื่องของรถบรรทุกที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนทั้งผู้ประกอบการที่ทำถูกกฎหมาย หลายท่านก็เดือดร้อนเกิดการแข่งขันที่ไม่ทัดเทียมกันนะครับ คนที่ใส่บรรทุกตามกฎหมายก็สู้ไม่ได้ คนที่แบกน้ำหนักก็ทำได้ แต่ก็ต้องไปเคลียร์ทางไม่ต้องวิ่งผ่านตราชั่งนะครับ ที่ผ่านมาก็ใส่กัน ๗๐ ตัน ๘๐ ตัน คนที่ทำถูกกฎหมายก็ลำบาก เป็นการแข่งขันทางธุรกิจ ที่ไม่เป็นธรรม ตอนนี้ในภาคของผู้ประกอบการเองนี่ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรที่จะขนส่งแบบน้ำหนักหรืออะไร ต้องการให้ทุกคนเดินทางกลางร่วมไม้ร่วมมือกันบรรทุกตามที่กฎหมายกำหนด จะได้เสมอภาคกัน ในขณะที่สื่อมวลชนเสนอข่าวถนนพัง ชำรุดหลายสายที่เห็นของบรรทุกเกินนะครับ สร้างถนนไม่ได้มาตรฐาน การจัดสรรงบประมาณซ่อมแซมถนน ที่มีความเหลื่อมล้ำ นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของการขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยว่าสมาพันธ์ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องส่วย และนำเรื่องที่เป็น ปัญหาในปัจจุบัน เพื่อเข้ามาสู่ในรัฐบาลอย่างจริงจังที่จะช่วยกันแก้ปัญหาทั้ง 12 สมาคมของขนส่งทางบกนะครับ ที่ร่วมกันต่อสู่กันมานาน ทางสมาพันธ์ขอขอบพระคุณในฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้านที่จะช่วยกันมีญัตตินี้ขึ้นมา เพื่อหาความรู้และความเข้าใจในญัตติที่เป็นประเด็นและเป็นปัญหากันอยู่ทุกวันนี้นะครับ เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่เสร็จสิ้นสักครั้งหนึ่ง ที่ผ่านมาก็แก้ไขปัญหากันแบบอย่างที่เรียนตั้งแต่ต้นครับ เหมือนไฟไหม้ฟาง ใส่เกินถูกจับ และไปเคลียร์กัน พอถูกจับเกินน้ำหนักก็ไปสู่โรงพักให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี ไปสู่อัยการ สู่ศาลก็เสียค่าปรับคันหนึ่ง 50,000-60,000 บาท ไม่ใช่น้อยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการทั้งหมดไม่อยากทำผิดกฎหมายครับ แต่ว่าที่ผ่านมาด้วยการแข่งขัน ด้วยสภาพของน้ำมันก็ดีที่ผ่านมาก็ต่อสู้กันเต็มที่ ขอ Slide นิดหนึ่ง ผมจะอธิบายให้เห็นภาพนิดหนึ่ง รถที่ปัจจุบันได้ดัดแปลง และได้เปลี่ยนแปลงกันมาเยอะแยะมากมาย รถบรรทุก 10 ล้อ รถบรรทุก 18 ล้อ รถบรรทุก 22 ล้อ รถบรรทุก 24 ล้อนะครับ รถบรรทุก 18 ล้อก็จะใส่ได้ประมาณ 48 ตัน รถบรรทุก 22 ล้อ ตอนนี้ก็คือ 50.5 ตัน แล้วรถตามภาพที่ 4 รถนี้ได้ดัดแปลงกันมานานมากเป็นสิบปีแล้ว เดี๋ยวเอาล้อใส่ เดี๋ยวเอาล้อออก ซึ่งผู้ประกอบการที่อยากทำถูกกฎหมาย ก็พยายามดัดแปลง เพื่อให้ได้น้ำหนักเพิ่มตามกฎกติกาของกรมการขนส่งที่กำหนดขึ้นมา แต่ ณ ปัจจุบันนี้น้ำหนักได้ถูกกำหนด ได้ลดลงไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ 58 ตันลงมา เหลือ 55 ตัน ตอนนี้เหลือ 50.0 ตัน รถที่ใส่ล้อหน้าที่เป็นล้อหน้าคู่อย่างที่เห็นในภาพที่ 4 เป็นรถ 5 คานนะครับ 12 ล้อ ตัวแม่นะครับ ตัวลูก 12 ล้อ 3 คาน ปกติก็จะใส่ได้อยู่ประมาณ 55 ตัน แต่ ณ ตอนนี้ถือว่ากลับไปรวมกันอยู่ที่ 50.5 ตันทั้งหมด บางคนก็ต้องไปรื้อคานออกก็ต้องไปเสียค่าใช้จ่ายให้กับขนส่ง ไปเปลี่ยนแปลงสภาพกันอีก กลุ่มผู้ประกอบการกลุ่มนี้ ก็คืออยากจะทำให้ถูกกฎหมายนะครับ แต่ที่ผ่านมาด้วยความเหลื่อมล้ำ ด้วยการปล่อยปละละเลย ส่วยสติ๊กเกอร์ที่เห็นเป็นประจำในสื่อก็ยังมีกันเยอะแยะมากมาย ซึ่งทำให้ถนนหนทาง โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทในเขตที่กำลังก่อสร้างถนนนะครับ โดยเฉพาะรถดิน รถทรายที่วิ่งไปทำถนนนี่ใส่กันแบบเต็มกล่องเลยนะครับ หนักประมาณ 80-100 ตันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นการเอาเปรียบกันมาก ๆ ในการทำธุรกิจเรื่องขนส่ง ฝากท่านประธานไปถึงกรรมการที่จะตั้งวิสามัญนี้ขึ้นมานะครับ ก็ช่วยดูตรงนี้ให้มีความชัดเจน เพื่อทุกคนจะได้อยู่ในสายกลางขึ้นมาและผู้ประกอบการอีกบางส่วน ในเศรษฐกิจภาวะแบบนี้นะครับ ก็ยังอยากให้ทาง ธกส. เมื่อสมัยก่อนรัฐบาลเพื่อไทย ก่อนที่จะมาถึงรัฐบาลนี้นะครับ คุณหมอสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ได้เคยให้วงเงิน ธกส. ปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการที่มีความไม่คล่องตัวในธุรกิจปล่อยกู้ ซึ่งมีความเสียหายน้อยมาก ก็อยากให้นำวาระแบบนั้นกลับเข้ามาอีก เพื่อความคล่องตัว และในการแก้ปัญหาแต่ละอย่างก็ขอให้ภาครัฐแจ้งผู้ประกอบการเขานิดหนึ่งครับ เพื่อการทำงานไปคู่กันจะได้ทำให้ถูกกฎหมายด้วย