ฝ่ายความมั่นคงจะเพิ่มความถี่ในการเฝ้าตรวจและลาดตระเวนพื้นที่ในเขตเมืองชั้นในและพื้นที่รอบนอก ตลอดแนวแม่น้ำสุไหงโกลก

จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด และยิงปะทะรถยนต์เจ้าหน้าที่ นปพ.นราธิวาส 33 เมื่อเวลาประมาณ 24.00 น. วันที่ 28 เม.ย.67 ทำให้เจ้าหน้าที่ นปพ.นราธิวาส 33 ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 นายพลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมสุริโยทัย ได้มีคำสั่งให้มีการปิดช่องทางข้ามพรมแดนทางธรรมชาติในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก รวมทั้งเขตรอยต่อ อ.ตากใบ และ อ.แว้งทั้งหมดเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารชุดควบคุมและป้องกันชายแดนในพื้นที่ อ.ตากใบ อ.สุไหงโกลก และ อ.แว้ง ลงลาดตระเวนควบคุมพื้นที่รวมทั้งลาดตระเวนตรวจสอบเส้นทางที่กลุ่มคนร้ายลอบข้ามแดนเข้ามาเคลื่อนไหวก่อเหตุร้าย ซึ่งเป็นมาตรการป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย โดยสั่งการเพิ่มความเข้มงวด และควบคุมการปฏิบัติตามแนวชายแดน สกัดกั้นพื้นที่รับผิดชอบ อำเภอตากใบ อำเภอสุไหงโก-ลก และ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ตลอดระยะทางกว่า 453 กิโลเมตร ด้าน ร.อ.พงศกร เทพษร ผู้บังคับกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 3 บก.ควบคุมสุริโยทัย เน้นย้ำกำลังพลในการลาดตระเวนพื้นที่ ม.5 บ้านตือระ ม.3 บ้านลูโบ๊ะคง ต.สุไหงโกลก ตลอดถึงท่าข้าม ทั้ง 6 ท่า คือท่าชมพู่ ,ท่าเจ๊ะกาเซ๊ง ,ท่าโต๊ะอาแว ,ท่าประปา ,ท่าโรงเลื่อย และ ท่ากอไผ่ เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการ เพิ่มมาตรการคุมเข้มตลอดแนวชายแดน สกัดกั้นพื้นที่รับผิดชอบ  นอกจากนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับกองบังคับการควบคุมสุริโยทัย สั่งเพิ่มมาตรการในการลาดตระเวน โดยให้หน่วยได้บูรณาการ การปฏิบัติงานร่วมกันกับทุกภาคส่วนในการบังคับใช้กฎหมายตามแนวชายแดนไทย – มาเลเซีย อย่างเข้มงวด เสริมกำลังตามแนวชายแดน โดยเฉพาะช่องทางที่มีชุมชนหรือหมู่บ้านอาศัยอยู่ใกล้แนวชายแดน การจัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด และการจัดตั้งแหล่งข่าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน โดยบูรณาการการทํางานกับศูนย์ปฏิบัติการอําเภอ การป้องกัน สกัดกั้นชายแดน โดยกําชับในเรื่องการควบคุมบุคคล อาวุธ วัตถุระเบิด ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ ตามแนวชายแดน ไม่ให้เข้ามาในพื้นที่โดยเด็ดขาด