นายกรัฐมนตรี!!!!!มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ โครงการ“ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน สร้างความมั่นคงและสร้างโอกาสให้ชาวนครสวรรค์

นครสวรรค์ วันนี้ 13 มกราคม​ 2568​ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางถึง อาคารอเนกประสงค์สัมมนาและจัดแสดงนิทรรศการบึงบอระเพ็ด อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์โดยมีนางสาวชุติพร เสชัง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ นำรองผู้ว่าฯราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายก อบจ.จังหวัดนครสวรรค์ ผู้นำชุมชน ท้องถิ่น ท้องที่ พ่อค้า ประชาชนชาวนครสวรรค์ให้การต้อนรับจำนวนมาก    ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ บรรยายสรุปโครงการ ”ธนารักษ์เอื้อราษฎร์“ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 เพื่อประโยชน์ที่ประชาชนได้รับจากการเป็นผู้เช่าที่ราชพัสดุ คือ เปลี่ยนผู้ถือครองที่ดินราชพัสดุให้ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย มีความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน สามารถเข้าถึงระบบสาธารณูปโภค และระบบสาธารณูปการได้ เข้าถึงบริการสาธารณะของภาครัฐ แหล่งเงินทุน ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมีอาณาเขตการถือครองที่ชัดเจน สามารถสืบสิทธิการเช่าได้ ลดความเลื่อมล้ำทางสังคม สร้างรายได้ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และประชาชนมีคุณภาพชีวิตและขจัดปัญหาความยากจน ต่อมานางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นประธาน ในพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุโครงการ“ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิต  มีราษฎรได้รับมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุแปลงหมายทะเบียนที่ นว.339 (บึงบอระเพ็ด) อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอชุมแสง และอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ เพื่ออยู่อาศัยและการเกษตร จำนวน 1,575 สัญญา เนื้อที่ประมาณ 19,466 - 0 - 67 ไร่  จำนวน 1,081 ราย ประกอบด้วย เพื่ออยู่อาศัย 220 ราย และเพื่อประกอบการเกษตร จํานวน 861 ราย     นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในนามรัฐบาล มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้แก่ราษฎร ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ได้ตั้งเป้าหมายในการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้แก่ราษฎรอย่างน้อย 5,055 สัญญา คาดว่าจะสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่ท้องถิ่นได้มากขึ้น และเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร ให้มีความยั่งยืนต่อไป มีที่ดินที่มั่นคงขึ้น และสามารถใช้ที่ดินในการสืบสิทธิให้กับทายาทต่อไป        สำหรับโครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” จะส่งผลให้ประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ทั้งด้านระบบสาธารณูปโภคและระบบสาธารณูปการ อีกทั้งสามารถเข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของทางราชการ สร้างรายได้ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการสร้างความเข้มแข็งด้านสังคมให้แก่ราษฎรต่อมา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางติดตามการบริหารจัดการน้ำพื้นที่บึงบอระเพ็ดโดยเดินตรวจราชการที่ศูนย์เพาะพันธ์น้ำจืดบึงบอระเพ็ด กรมประมง กระทรวงเกษตรฯ ซึ่งอยู่ติดกับอาคารอเนกประสงค์สัมมนาและจัดแสดงนิทรรศการบึงบอระเพ็ด ระยะทางประมาณ 2 กม. บริเวณ “ประตูดำ  “ เพื่อตรวจสภาพน้ำแม่น้ำน่าน และระดับน้ำตรงปากทางเข้าบึงบอระเพ็ด ซึ่งมีประตูระบายน้ำ ซึ่งทำหน้าที่ปิด -เปิดระหว่างแม่น้ำน่านและบึงบอระเพ็ด เพื่อรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม - น้ำแล้งในพื้นที่ภาคกลาง  โดยประตูระบายน้ำแห่งนี้ เป็นประตูเชื่อมระหว่างแม่น้ำน่าน กับบึงบอระเพ็ด ช่วงฤดูฝนหลากมีน้ำมาก  จะเป็นจุดสำคัญที่จะรับน้ำจากแม่น้ำน่านที่มาจากภาคเหนือเข้าสู่บึงบอระเพ็ด  ปีนี้มีปริมาณน้ำเข้าบึงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ปริมาณน้ำสูงสุดกว่า 300 ล้านลูกบาศก์เมตร  บริหารจัดการน้ำโดยระบบชลประทานสามารถหน่วงน้ำ ไม่ให้ไหลเข้าท่วมทุ่งเจ้าพระยาบรรเทาปัญหาอุทกภัยได้  และช่วงฤดูแล้ง  จะกักเก็บน้ำไว้ใช้ภายในบึง       ปัจจุบันมีปริมาณน้ำกักเก็บที่ 186 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 80 % จากความจุ ระดับน้ำสูงกว่าแม่น้ำน่านประมาณ 6 เมตร การใช้น้ำมีการบริหารจัดการน้ำผ่านคณะกรรมการ โดยมี ผู้ว่าราชการ จ.นครสวรรค์เป็นประธาน ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน  และกลุ่มผู้ใช้น้ำ ทั้ง 9 กลุ่ม 9 ตำบล

#ธนารักษ์เอื้อราษฎร์#นครสวรรค์#นายก อุ๋งอิ๋ง