นักศึกษา ม.เจ้าพระยา ปี 4 คว้ารางวัล “รองชนะเลิศอันดับ 1 ระดับภาค ในการแข่งขันตอบปัญหากฎหมายเนื่องในวันรพี ประจำปี 2568 ระดับอุดมศึกษา

เมื่อวันพุธที่ 20 สิงหาคม 2568 ที่จังหวัดพิษณุโลก        ดร.ดารัตน์ ศิริวิริยะกุล วิภาตะกลัศ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา แถลงกับสื่อมวลชนจังหวัดนครสวรรค์ว่า ทีมนักศึกษา ปี 4 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา ที่เข้าร่วมการแข่งขันตอบปัญหากฎหมาย เนื่องในวันรพี ประจำปี 2568 ระดับอุดมศึกษา (รอบคัดเลือกส่วนภูมิภาค) เมื่อวันพุธที่ 20 สิงหาคม 2568 ที่โรงแรมท็อปแลนด์ อำเภอเมืองฯ จังหวัดพิษณุโลก ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 โดยผู้เข้าแข่งขันประกอบด้วย นายอดิรุจ  ทองขาว และนางสาวนิชาภัทร  แสงเพชร        อธิการบดีมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา แจ้งว่า การแข่งขันตอบปัญหากฎหมายรอบคัดเลือกส่วนภูมิภาค ระดับอุดมศึกษา (ปริญญาตรี) จัดโดยสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 พิษณุโลก ในครั้งนี้มีสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย 8 แห่ง วิทยาลัย 1 แห่ง ซึ่งเป็นที่ตั้งศาลในเขตอำนาจของอธิบดีผู้พิพากษา ภาค 6 เข้าร่วมแข่งขัน แห่งละ 2 ทีม ประกอบด้วย จังหวัดพิษณุโลก ได้แก่ มหาวิทยาลัย(ม.)ราชภัฏพิบูลสงคราม ม.พิษณุโลก ม.นเรศวร  จังหวัดนครสวรรค์ ได้แก่ ม.เจ้าพระยา ม.ราชภัฏนครสวรรค์  จังหวัดกำแพงเพชร ได้แก่ ม.ราชภัฏกำแพงเพชร  จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้แก่ ม.ราชภัฏเพชรบูรณ์  จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้แก่ ม.ราชภัฏอุตรดิตถ์ และจังหวัดตาก ได้แก่ วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น        “ทีมที่เข้าแข่งขันของมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา นครสวรรค์ มีอาจารย์ผู้ควบคุมทีมแข่งขันคืออาจารย์ฉัตรชัย  ทศสอาด และอาจารย์ศรีประไพ  ม่วงพุ่ม อาจารย์ประจำสาขาวิชานิติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา ในส่วนของนักศึกษาที่เข้าแข่งขันได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับทุนการศึกษา 10,000 บาท พร้อมโล่รางวัล และใบประกาศเกียรติคุณ  รวมทั้งยังได้รับการคัดเลือกเข้าแข่งขันรอบระดับประเทศที่กรุงเทพฯ ต่อไปอีกด้วย ทั้งนี้ จากกรณีที่นักศึกษาสาขาวิชานิติศาสตร์ ระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 4 ของมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ในการแข่งขันรอบภูมิภาคครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการศึกษาในหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิตของมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา ได้อย่างน่าภาคภูมิใจยิ่ง” ดร.ดารัตน์ ศิริวิริยะกุล วิภาตะกลัศ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา กล่าวในท้ายที่สุด