ต้อยทูเดย์ออนไลน์ Toytodayonline

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2567

เกษตรกรจังหวัดนครสวรรค์กางร่มขนาดใหญ่รับจ้างเก็บพริก เผยแดดแรงและอากาศที่ร้อนจัดพริกที่ปลูกได้รับผลกระทบขาดทุนแทบทุกราย

เกษตรกรที่รับจ้างเก็บพริกในจังหวัดนครสวรรค์ต้องกางร่มส่วนตัวขนาดใหญ่ออกรับจ้างเก็บพริกกลางแจ้งท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัดอุณหภูมสูงเฉลี่ยกว่า 35 องศาเซลเซียส  จากการเปิดเผยของนางอำไพ  สมบูรณ์ชาวบ้านเจ้าสนุกหมู่ที่12  ตำบลเกรียงไกร อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์บอกว่า  ช่วงนี้จังหวัดนครสวรรค์มีสสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้ตนเองและชาวบ้านคนอื่นที่ทำงานกลางแจ้งโดยการออกรับจ้างเก็บพริกตอนกลางวันทนร้อนไม่ไหว  ต้องช่วยเหลือตัวเองโดยการกางร่มส่วนตัวบังแดดขณะเก็บพริกอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันโรคลมแดดหรือโรคฮีทสโตรก    ซึ่งนอกจากจะกางร่มกันตลอดเวลาขณะที่อยู่กลางแจ้งแล้วกระติกน้ำและแก้วน้ำเย็นก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ชาวบ้านขาดไม่ได้  ชาวบ้านยังบอกอีกว่าจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดเพิ่มขึ้นทุกปีทำให้ในขณะนี้ไม่สามารถทำงานได้ตลอดทั้งวันเหมือนอย่างเคยถึงแม้จะกางร่มแล้วก็ตาม  ซึ่งช่วงบ่ายของทุกวันจะต้องหยุดทำงานและพากันหาร่มไม้เพื่อเป็นที่พักบรรเทาร้อน  ก่อนที่ช่วงเย็นๆจะออกมาทำงานกลางแจ้งอีกครั้ง ในขณะที่เมล็ดของพริกที่ปลูกทุกแปลงก็ทนกับสภาพอากาศที่ร้อนไม่ไหว  ออกดอกและมีผลผลิตน้อยพร้อมทั้งเกิดโรคระบาดทั้งเพลี้ยไฟ  ใบหยิก  ผลผลิตลงลงกว่าครึ่งจากที่เคยได้ผลผลิต 1 พันลิโลกรัมต่อ1ไร่ ในขณะนี้เหลือเพียง 1-2 ร้อยกิโลกรัมต่อไร่เท่านั้น  ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ขาดทุนกันแล้วจำนวนมาก☎️☎️ต้อย​ รอบ​รั้ว​ภูธร​-0619782952​-0838823240​☎️☎️

วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2567

ข่าว.จับบุหรี่ไฟฟ้ากว่าสองพันชิ้น

วันที่ 19 มีนาคม 2567​ นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ แถลงข่าวการกวาดล้างจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า    โดยฝ่ายปกครองนครสวรรค์​ บูรณาการร่วมหลายหน่วยงานจับผู้ลักลอบค้าบุหรี่ไฟฟ้าได้ของกลางมูลค่า 428, 000 บาท หลังพลเมืองดีแจ้งเบาะแสติดป้ายซื้อขายอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายหัวพอร์ตบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้งจำนวน 1,050 ชิ้น  เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งจำนวน 481 ชิ้น  อุปกรณ์เสริมบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 364 ชิ้น และน้ำยาชนิดเติมบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 245 ขวด มูลค่ารวมกว่า 4 แสนบาท  เป็นของกลางที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนครสวรรค์บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค  ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานในขณะทำการส่งสายล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากับ  นางสาวบี(นามสมมุติ)​  อายุ 45 ปี  ภูมิลำเนากรุงเทพฯปัจจุบันพักอาศัยบริเวณสถานีขนส่งจังหวัดนครสวรรค์  ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนและแจ้งเบาะแสถึงพฤติกรรมการซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้าบริเวณสถานีขนส่งจังหวัดนครสวรรค์  จากประชาชนในพื้นที่ก่อนบูรณาการจากหลายหน่วยงานวางแผนล่อซื้อและจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้ในที่สุด  เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นางสาวบี(นามสมมุติ)​  ในข้อหากระทำความผิดฐาน 1.ซ่อนเร้นช่วยจำหน่ายช่วยพาเอาไปเสียซื้อรับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากรตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ 2560 2.ขายสินค้าบารากู่ไฟฟ้าหรือจำหน่ายหรือบุหรี่ไฟฟ้าหรือตัวยาบารากู่น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าโดยฝากฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคฉบับที่ 4 พ.ศ 2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 600,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ  และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป☎️☎️ต้อย​ รอบ​รั้ว​ภูธร​-0838823240​-0619782952​☎️☎️

จังหวัดนครสวรรค์ จัดกิจกรรม “วันท้องถิ่นไทย” ณ​ อาคารอเนกประสงค์ บึงบอระเพ็ด

             วันที่ 18 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. ที่อาคารอเนกประสงสัมมนาและจัดนิทรรศการบึงบอระเพ็ด นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานจัดกรรม “วันท้องถิ่นไทย” โดยมีนางวราภรณ์ เสริมภักดีกุล ประธานแม่บ้านมหาดไทย พร้อมด้วยนางสาวชุติพร เสชัง รองผู้ว่าาชการจังหวัดนครสวรรค์ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ ได้ร่วมกันวางพานพุ่มดอกไม้สด พร้อมด้วยประธานได้ถวายเครื่องราชสักการะ และกล่าวคำถวายราชสดุดี เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว              จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ประธานในพิธีฯได้มอบรางวัลตามโครงการประเมินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสะอาด และเดินเยี่ยมชมบูธนิทรรศการแสดงผลการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมทั้งร่วมกันปลูกต้นไม้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ 18 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันท้องถิ่นไทย จากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอมเป็น "สุขาภิบาลท่าฉลอม" ในวันที่ 18 มีนาคม 2448 (ร.ศ.124) ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายอำนาจการปกครองให้ประชาชนในท้องถิ่น ได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง อันนำไปสู่การวางรากฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตย ทางคณะรัฐมนตรี จึงมีมติในวันที่ 22 มิถุนายน 2553 ประกาศให้วันที่ 18 มีนาคม ของทุกปี เป็น วันท้องถิ่นไทย โดยจังหวัดสมุทรสาคร จะมีการจัดงานประเพณี 18 มีนาคม สุขาภิบาลท่าฉลอม เป็นประจำทุกปี พร้อม ๆ กับหลายจังหวัด ทั้งนี้ ตามประวัติศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2440 (ร.ศ. 116) สุขาภิบาลแห่งแรกของไทยได้รับการจัดตั้งขึ้นในเขตกรุงเทพมหานครเรียกว่า "สุขาภิบาลกรุงเทพ" โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศใช้พระราชกำหนดสุขาภิบาลกรุงเทพฯ ร.ศ. 116 ขึ้น โดยผู้บริหารสุขาภิบาลกรุงเทพ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่อยู่ในบังคับบัญชาของเสนาบดีกระทรวงนครบาล ตามที่ทรงทอดพระเนตรมาจากการเสด็จประพาสต่างประเทศ หลังจากนั้น 8 ปีคือในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2448 (ร.ศ. 124) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาครเป็น "สุขาภิบาล" เรียกว่า "สุขาภิบาลท่าฉลอม" ซึ่งถือว่าเป็นสุขาภิบาล "หัวเมือง" แห่งแรกของไทย ซึ่งในปัจจุบันคือ "เทศบาลนครสมุทรสาคร" สำหรับเหตุที่การจัดตั้งสุขาภิบาลหัวเมืองล่าช้าไปมาก เพราะสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยทรง เล็งเห็นว่า การสุขาภิบาลซึ่งเป็นรูปแบบที่ประชาชนปกครองตนเองนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากราษฎรในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นการจ่ายภาษี การร่วมกันดูแลรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของชุมชน หากบังคับให้มีขึ้นโดยที่ประชาชนไม่เห็นความจำเป็นก็จะไม่ประสบความสำเร็จ เทศบาลนครสงขลา ขอร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2448 นับเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายอำนาจการปกครองให้แก่ประชาชน และเป็นการถือกำเนิดของการปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นรากฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมาจนถึงทุกวันนี้☎️☎️ต้อย​ รอบ​รั้ว​ภูธร​ -​0838823240​-0619782952​☎️☎️

กระบะตู้ทึบ ขับขี่ด้วยความเร็วเกิดอุบัติเหตุ ชนกับหญิงสาวขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต​ ตรวจสอบพบขนแรงงานต่างด้าว​ 21 คน​

ที่จังหวัดนครสวรรค์ รถกระบะตู้ทึบ ขับขี่ด้วยความเร็ว เกิดอุบัติเหตุ ชนกับหญิงสาวขี่รถจักรยานยนต์ ในพื้นที่ถนนสายนครสวรรค์-อุทัยธานี ตำบลพยุหะคีรี อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อช่วงเวลา 11:00 น ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้หญิงสาวรถจักรยานยนต์วัย 58 ปีเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยคนขับรถกระบะยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฯลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบความผิดปกติหลายๆอย่าง ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า สัมภาระ ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน จำนวนมากที่อยู่ในรถกระบะ จึงตรวจสอบป่าข้างทางอย่างละเอียด พบแรงงานต่างด้าวที่กำลังกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ มากถึง 20 คน  ด้านคนขับรถกระบะทราบชื่อภายหลังว่านาย นายสุเทพ เจริญคุรุเสถียร อายุ 41ปี หมู่10ตำบลโกสัมพี อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร ยอมรับว่า ตนได้ขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่า เป็นชาย 9 หญิง 11 คน เดินทางมาจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ในราคาหัวละ 15,000 บาท โดยปลายทางเป็น จังหวัดระยอง ซึ่งจะเลือกใช้ถนนเส้นทางสายรอง เพราะไม่ค่อยมีด่านตรวจ แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้ขับรถไปชนกับชาวบ้านในพื้นที่ โดยจักรยานยนต์ กระเด็นตกลงข้างทาง ส่วนรถกระบะที่ขนแรงงานมาเกิดการเสียหายด้านหน้า จึงไม่สามารถขับหนีต่อไปไหนได้ ด้วยความที่ไม่อยากผิดซ้ำสอง จึงได้ให้แรงงานผิดกฎหมายทั้งหมดไปหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าข้างทางก่อน แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะตำรวจจับความผิดปกติได้ในส่วนของนายพา (ไม่มีนามสกุล)หนึ่งในแรงงานชาวพม่า บอกผ่านล่ามว่า สาเหตุที่ไม่มา แบบถูกกฎหมาย เพราะนายหน้าแรงงานเรียกหัวละ 60,000 บาท แต่ไม่รับผิดชอบว่าจะได้งานทำหรือไม่ เลยต้องลักลอบ เข้า เมืองแบบผิดกฎหมายด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. พยุหะคีรี จึงได้ดำเนินคดีแก่นายนายสุเทพ ในข้อหาขับรถประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต​ ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยเหลือ หรือช่วยด้วยประการใด ๆ แก่คนต่างต้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุม และดำเนินคดีกับแรงงานต่างด้าวในข้อหา แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่เป็นบุคคลต่างด้าวว่า  เป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการอนุญาตสิ้นสุด☎️☎️ต้อย​ รอบ​รั้ว​ภูธร​ -​0838823240​-0619782952​☎️☎️

วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2567

NCES น่าน ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน แถลงข่าวห้ามเผา 47 วัน เริ่มวันนี้ 15 มีนาคม 67 วันแรก เน้นบูรณาการทำงานทุกภาคส่วน ตั้งเป้าลด Hot Spot หวังคุณภาพอากาศดีขึ้น

ที่ส่วนจัดการต้นน้ำสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (เขาน้อย) นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วย นายกมล นวลใย ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 นายสงคราม ขาวสะอาด ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 3 สาขาแพร่ นายมานิต ธนะวงศ์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน และนางสาวธนวันต์ ชุมแสง ประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน ร่วมแถลงข่าว เริ่มการห้ามเผาวันแรก โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชนร่วมแถลงข่าวจำนวนมาก                          จากที่มีการประกาศจากจังหวัดน่าน เรื่องการห้ามเผาโดยเด็ดขาดทุกพื้นที่ ทุกกรณีเป็นระยะเวลา 47 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. 2567 ถึงวันที่ 30 เม.ย. 2567 เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดน่านนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางจังหวัดน่านได้จัดระเบียบการเผาให้กับประชาชนทั้ง 15 อำเภอ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา เป็นการบริหารจัดการเชื้อเพลิง จัดการการเผาอย่างมีเงื่อนไขตามประกาศของทางจังหวัด และได้บูรณาการทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เข้ามาเป็นอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน ในการออกรณรงค์ห้ามเผาโดยเด็ดขาดทุกพื้นที่ และช่วยกันเฝ้าระวังเหตุไฟไหม้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทำให้สามารถระงับเหตุเพลิงไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ป้องกันความเสียหายจากไฟไหม้ และลดปริมาณควันไฟได้ในระดับหนึ่ง                               ผู้ว่าฯ จังหวัดน่าน ยังได้กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงการห้ามเผาโดยเด็ดขาดทุกกรณี 47 วัน จึงขอความร่วมมือพี่น้องชาวจังหวัดน่านให้ความร่วมมือกับภาครัฐ หลีกเลี่ยงหรืองดการเผาโดยเด็ดขาด เนื่องจากสถานการณ์หมอกควัน PM 2.5 ของจังหวัดน่านมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากภัยแล้งและอากาศร้อน และเพื่อลดจุด Hot Spot และค่า PM 2.5 ภายในจังหวัดได้ดียิ่งขึ้น โดยพบว่าในช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 พบจุดความร้อนประมาณ 3,400 จุด แต่ในปี 2567 พบจุดความร้อน ประมาณ 2,100 จุด ซึ่งเห็นได้ว่าจุดความร้อนลดลงทำให้เห็นถึงมาตรการที่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี แต่ค่า PM 2.5 ที่ยังมีอยู่อาจมาจากต่างจังหวัดและต่างประเทศ และเน้นย้ำว่าหากพบเจอการลักลอบการเผาจะมีการจับ และดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งมีการผนึกกำลังเจ้าหน้าที่ในการลาดตะเวนในแต่ละแห่งอีกด้วย                               ทั้งนี้ยังต้องขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเหตุไฟป่า ขอให้รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยด่วน  หรือโทรสายด่วน 1784  สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารภัยจังหวัดน่าน โทรศัพท์. 054-716174  หรือ แจ้งไปที่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน หมายเลขโทร.​  NCES น่าน ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน แถลงข่าวห้ามเผา 47 วัน เริ่มวันนี้ 15 มีนาคม 67 วันแรก เน้นบูรณาการทำงานทุกภาคส่วน ตั้งเป้าลด Hot Spot หวังคุณภาพอากาศดีขึ้น                                 ที่ส่วนจัดการต้นน้ำสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (เขาน้อย) นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วย นายกมล นวลใย ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 นายสงคราม ขาวสะอาด ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 3 สาขาแพร่ นายมานิต ธนะวงศ์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน และนางสาวธนวันต์ ชุมแสง ประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน ร่วมแถลงข่าว เริ่มการห้ามเผาวันแรก โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชนร่วมแถลงข่าวจำนวนมาก                          จากที่มีการประกาศจากจังหวัดน่าน เรื่องการห้ามเผาโดยเด็ดขาดทุกพื้นที่ ทุกกรณีเป็นระยะเวลา 47 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. 2567 ถึงวันที่ 30 เม.ย. 2567 เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดน่านนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางจังหวัดน่านได้จัดระเบียบการเผาให้กับประชาชนทั้ง 15 อำเภอ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา เป็นการบริหารจัดการเชื้อเพลิง จัดการการเผาอย่างมีเงื่อนไขตามประกาศของทางจังหวัด และได้บูรณาการทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เข้ามาเป็นอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน ในการออกรณรงค์ห้ามเผาโดยเด็ดขาดทุกพื้นที่ และช่วยกันเฝ้าระวังเหตุไฟไหม้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทำให้สามารถระงับเหตุเพลิงไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ป้องกันความเสียหายจากไฟไหม้ และลดปริมาณควันไฟได้ในระดับหนึ่ง                               ผู้ว่าฯ จังหวัดน่าน ยังได้กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงการห้ามเผาโดยเด็ดขาดทุกกรณี 47 วัน จึงขอความร่วมมือพี่น้องชาวจังหวัดน่านให้ความร่วมมือกับภาครัฐ หลีกเลี่ยงหรืองดการเผาโดยเด็ดขาด เนื่องจากสถานการณ์หมอกควัน PM 2.5 ของจังหวัดน่านมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากภัยแล้งและอากาศร้อน และเพื่อลดจุด Hot Spot และค่า PM 2.5 ภายในจังหวัดได้ดียิ่งขึ้น โดยพบว่าในช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 พบจุดความร้อนประมาณ 3,400 จุด แต่ในปี 2567 พบจุดความร้อน ประมาณ 2,100 จุด ซึ่งเห็นได้ว่าจุดความร้อนลดลงทำให้เห็นถึงมาตรการที่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี แต่ค่า PM 2.5 ที่ยังมีอยู่อาจมาจากต่างจังหวัดและต่างประเทศ และเน้นย้ำว่าหากพบเจอการลักลอบการเผาจะมีการจับ และดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งมีการผนึกกำลังเจ้าหน้าที่ในการลาดตะเวนในแต่ละแห่งอีกด้วย                               ทั้งนี้ยังต้องขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเหตุไฟป่า ขอให้รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยด่วน  หรือโทรสายด่วน 1784  สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารภัยจังหวัดน่าน โทรศัพท์. 054-716174  หรือ แจ้งไปที่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน หมายเลขโทร.054-716456 ต่อ 15  สมาน  สุทำแปง/น่าน

ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนครสวรรค์​ จับกุมร้านค้าที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์

วันที่ 9 พ.ค. 67 เวลา 17.20 น    ภายใต้การอำนวยการของ นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ นายชุมพิชญ์ เดชะรัฐ รองผ...