ที่โรงแรมป่าทำมา ตำบลเมืองจัง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน สำนักงานจังหวัดน่าน ได้จัดอบรมสัมมนาเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายสื่อมวลชน ตามโครงการประชาสัมพันธ์นโยบายสำคัญของผู้ว่าราชการจังหวัดน่านและยุทธศาสตร์จังหวัดน่าน โดยมี นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานและมีสื่อมวลชนทุกแขนงในจังหวัดน่านเข้าร่วมกิจกรรม ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน ร่วมกันประชาสัมพันธ์ หาแนวทางการแก้ไขปัญหา และข้อเสนอแนะความต้องการของประชาชน ในการขับเคลื่อนการพัฒนา ตลอดถึงการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนเมื่อได้รับความเดือดร้อน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่าในปี พ.ศ. 2567 นี้เป็นปีมหามงคลในหลวงครบ 6 รอบ รัฐบาลได้มีการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งได้เชิญชวนแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลืองในวันจันทร์ โดยในส่วนของข้าราชการจะใส่สีกากีในวันอังคาร วันพุธใส่เสื้อ To Be Number One วันพฤหัสบดีชุดพื้นเมืองหรือชุดสุภาพ และวันศุกร์ชุดพื้นเมืองผ้าลายน้ำไหล นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำเรื่องการทำงานของท่านคือ รื้อฟื้น สิ่งดี ๆ ในอดีตกลับมาใหม่ เช่น ประเพณีแข่งเรือ การรักษา สิ่งที่ทำไว้ดีแล้วรักษาให้คงอยู่ตลอดไป การพัฒนา พัฒนาทุกมิติสร้างงานใหม่ การทำงานเร็ว ทำทันที และถูก ถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย ข้อสั่งการ ราคาถูก คุ้มค่า งานที่จังหวัดได้ขับเคลื่อนในช่วงต้นปีที่ผ่านมา คือ เรื่องไฟป่าหมอกควัน ฝุ่น PM 2.5 การแก้ปัญหาและพยายามทำให้ลดลง จากเดิมปีที่แล้ว บังคับห้ามเผา 75 วัน ปรากฏว่า คุณภาพอากาศพุ่งทะลุ 92 วัน ปีนี้จึงได้กำหนด จะลดวันห้ามเผาเหลือ 47 วัน และวันที่เหลือจะบริหารเชื้อเพลิง จัดระเบียบการเผา 15 กุมภาพันธ์ 2567 ถึง 14 มีนาคม 2567 โดยกำหนดพื้นที่เผา หากจะเผาให้ดูตารางการเผาแนบท้ายประกาศจังหวัดด้วย โดย 3 อำเภอที่เผามากที่สุดคือ อ.เวียงสา อ.นาน้อย และอ.นาหมื่น จุด Hot Spot เกินครึ่งของทั้งจังหวัดก่อนหน้านี้ได้ลงไปพูดคุยกับทุกอำเภอ ให้ยึดถือตารางการเผาของแต่ละพื้นที่ โดยให้นายอำเภอไปทำความเข้าใจกับผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำความเข้าใจกับชาวบ้านโดยคาดว่าปีนี้จะเบาบางลงไป ตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 ถึง 4 มีนาคม 2567 พบว่า PM 2.5 ด่านห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ 51 มคก./ลบ.ม. ใน อ.เมือง 64 มคก./ลบ.ม. ซึ่งเกินค่ามาตรฐานมา 38 วัน เรามีจุด Hot Spot เกิดขึ้น 965 จุด ตั้งแต่ มกราคมถึงปัจจุบัน เทียบกับปีที่แล้ว 3,016 จุด มีการเผ่าน้อย แต่ค่า PM 2.5 สูงเนื่องจากมีหมอกควันจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม ปีนี้งบประมาณกลุ่มจังหวัด ได้งบมา 4 ล้านบาท ทสจ.ได้ไปทำแนวกันไฟและลาดตระเวน สิ่งที่สื่อต้องการให้มีการพัฒนาและแก้ปัญหา เช่น ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายเรื่องมลพิษทางอากาศ การจัดการที่ดินทำกิน การแก้ปัญหาความยากจนของประชาชน ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาการศึกษาปัญหาด้านการท่องเที่ยว การแก้ปัญหาสปันสกาด แก้ปัญหาจราจรและปัญหาขยะ โดยผู้ว่าฯ ยังได้กล่าวอีกว่ากำลัง จะสร้าง คลัสเตอร์กาแฟ โดยนำส่วนราชการและภาคเอกชน เข้าไปมีส่วนร่วมกับเกษตรกร เพื่อให้ครอบคลุมและพร้อมสู่ตลาดมากขึ้น โดยแต่ละปีอเมซอนใช้กาแฟ 5,000 ตัน นำเข้าจากต่างประเทศ ต่อไปจะซื้อตรงจากเกษตรกร และได้ทำที่ จ.เชียงใหม่เรียบร้อย และจะเข้ามาทำที่ จ.น่านต่อไป และพร้อมการผลักดันเมืองน่านสู่เมืองมรดกโลก ควบคู่กับหลวงพระบางสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีอีกด้วย
สมาน สุทำแปง/น่าน
วันนี้เวลา 15.00 น.นายสรณต ณ ศรีโตนายอำเภอเก้าเลี้ยวพร้อมด้วย สส.สัญญา นิลสุพรรณ สส. เขต 3 นครสวรรค์,นายก ทต.เก้าเลี้ยว,กน ผญบ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น