รวบGrabหื่นหวังข่มขืนครูแหม่มเยอรมันตำรวจ สภ.เมืองอุบลจับกุมคนขับรถGRAB รับผู้โดยสารจะไปส่งที่พัก แต่กลับพาเลี้ยวเข้าข้างทางพร้อมบังคับให้ลงจากรถ หวังจะทำการข่มขืน แต่เหยื่อฮึดสู้ขัดขวางเต็มที่ พร้อมร้องขอความช่วยเหลือ คนร้ายขับGRAB เห็นท่าไม่ดี กระชากกระเป๋า วิ่งขึ้นรถหนีทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมได้ในเวลาไม่นาน

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. พ.ต.อ.คนองฤทธิ์  ดาราช  ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี สั่งการให้  พ.ต.ท.พงศ์พิพัฒน์  เหิมฉลาด รอง ผกก.สส. สภ.เมืองอุบลพร้อมด้วย พ.ต.ต.กิตติพงษ์  สาลีวรรณ สว.สส.สภ.เมืองอุบลรนาชธานี นำกำลังออกทำการสืบสวนติดตามคนร้ายหลังรับแจ้งทางโทรศัพท์ว่ามีชาวต่างชาติถูกทำร้ายชิงทรัพย์ และจะทำการข่มขืน เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ เหตุเกิดเมื่อ คืนวันที่ 23 ส.ค.2567ผู้เสียหายคือ นส. Schonwalder tanja อายุ22ปีชาวเยอรมัน  เป็นครูสอนภาษาเยอรมัน ที่ โรงเรียนประจำจังหวัดอุบลราชธานี แห่งหนึ่ง โดยก่อนเกิดเหตุ นส. Schonwalder tanja ได้ให้รายละเอียดกับตำรวจว่า ช่วงเกิดเหตุกลับจากทำธุระที่ห้างเซ็นทรัล จากนั้นก็ได้ติดต่อจ้างรถจักรยานยนต์ผ่านแอพพลิเคชั่น GRAB  ให้ไปส่งที่พักภายในโรงเรียน ซึ่งอยู่ห่างห้างเซ็นทรัลประมาณ 1 กม. ซึ่งเมื่อรถจักรยานยนต์มารับ ตนเองนั่งซ้อนท้าย และคนขับได้ขับพามุ่งหน้าไปทางโรงเรียนที่พัก ขณะเดินทางไปได้ครึ่งทาง ถึงบริเวณเชิงสะพานมูลน้อย คนขับรถได้เลี้ยวรถเข้าข้างทางด้านขวามือ   บริเวณร้านกาแฟ และบังคับตนเองลงจากรถแล้วใช้มือมาโอบกอดลากตนเองเข้าไปในพงหญ้าพร้อมบังคับ ให้นอนลงกับพื้นและใช้มือกดปิดปากผู้เสียหายไม่ให้ร้อง  ตนเองพยายามต่อสู้ด้วยการกัดมือและนิ้วมือของคนร้าย และแล้วเขาก็ได้ชกต่อยบริเวณใบหน้า2-3ครั้ง ตนได้ร้องให้คนช่วย เมื่อคนร้ายเห็นท่าไม่ดี จึงได้กระชากกระเป๋าซึ่งมีโทรศัพท์ไอโฟน13 ของตนเองแล้ววิ่งไปสตาร์ทรถหลบหนีทันที  ซึ่งต่อมามีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือตนเองนำส่งโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้กระจายกำลังออกทำการสืบสวนติดตามคนร้ายรายนี้  โดยชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.ต.กิตติพงศ์ สาลีวรรณ สว.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหมวกกันน๊อคตกในที่เกิดเหตุ 1 ใบ และทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางจาก ห้างเซ็นทรัลไปตามถนนที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีไป ก็ได้พบภาพในกล้องวงจรปิด ตั้งแต่จุดเริ่มต้นการรับผู้เสียหาย และประสานตรวจสอบข้อมูลไปยัง GRAB ทราบว่าผู้ไปรับผู้โดยสารเป็นรถจักยานยนต์  ทะเบียน ตรงกับข้อมูล ซึ่งตรวจสอบทะเบียนรถพบว่ารถคันดังกล่าวมีหญิงสาวรายหนึ่ง เป็นผู้ครอบครอง ให้นายธิติพงศ์ อายุ 39 ปี หลานชายนำไปใช้ขับรับจ้างโดยคนร้าย ได้พักอาศัยอยู่กับแม่ที่ ต. ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี ตำรวจจึงติดตามไปยังที่พัก จังหวะเดียวกัน กับที่นายธิติพงษ์  กำลังขับรถกลับมาบ้าน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายธิติพงษ์ จึงได้ขับรถหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงออกไล่ติดตามตัวได้ ที่ บริเวณถนนข้างสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค7 ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี  ควบคุมตัวพร้อมของกลางยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุไปทำการสอบสวน โดยนายคนร้าย ยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง และรับว่า ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้าไปหลายเม็ด เจ้าหน้าที่จึงตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเมทแอมเฟตามินเจือปน จึงแจ้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์,ทำอนาจาร และเสพสารเสพติด(ยาบ้า) ให้ทราบส่งดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

กฤษณะ วิลามาศ    รายงาน