กำแพงเพชร//// “สมาคมกีฬาชากังราว เสนอแนวทางส่งเสริมและพัฒนากีฬาจักรยานขาไถ (Balance Bike) ระดับจังหวัดกำแพงเพชร

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม  2567 ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร นายศุภชัย ศรีงาม นายกสมาคมกีฬาชากังราวจังหวัดกำแพงเพชรพร้อมทั้งคณะกรรมการบริหารและฝ่ายกีฬาจักรยานขาไถได้เข้าพบนายชาธิป รุจนเสรี ผวจ.กำแพงเพชร เพื่อเสนอโครงการการจัดตั้ง“ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนากีฬาขาไถ(Balance Bike) ระดับจังหวัด เพื่อให้มีการจัดกิจกรรม สอดคล้อง ครอบคลุมทั้งพื้นที่จังหวัดโดยมีนักกีฬาหนูน้อยขาไถที่ได้รับรางวัลในระดับจังหวัด ระดับประเทศ รวมถึงถ้วยรางวัลพระราชทานฯ เข้าร่วมด้วยนายชาธิป รุจนเสรี กล่าวว่า การพัฒนากีฬาขาไถถือว่าเป็นกีฬานโยบายของกระทรวงมหาดไทย ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการทางด้านร่างกายที่แข็งแรง และจิตใจ อารมณ์มีความ เบิกบาน มีความกล้าหาญ มีวินัย มีน้ำใจนักกีฬา รู้จักแพ้ รู้จักชนะ เคารพกฎ ระเบียบ กติกาด้วย ซึ่งตนเองมีความยินดีที่ต้องการอยากให้ลูกหลานชาวกำแพงเพชรได้รับการพัฒนาและพร้อมสนับสนุนให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบโดยจะได้บูรณาการร่วมมือในทุกภาคส่วนทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องรวมถึงภาคประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาดังกล่าว  ต่อจากนั้นคณะกรรมการสมาคมกีฬาจักรยานฯและนักกีฬาได้เดินทางเข้าพบนายสุนทร รัตนากร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัด ที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนและผลักดันการพัฒนากีฬาขาไถให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี           ซึ่งนายสุนทร รัตนากร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร  ได้กล่าวว่า การพัฒนาร่างกายและจิตใจของเด็กและเยาวขนเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมคุณภาพพัฒนาคุณภาพชีวิต และก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนโยบายของตนที่ให้ไว้แก่พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกำแพงเพชรและแถลงในสภาองค์ การบริหารส่วนจังหวัดอยู่แล้ว สิ่งไหนที่ถือว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชรและเกิดประโยชน์กับประชาชนโดยภาพรวมตนเองก็ยินดีที่จะให้การสนับสนุนและให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่ได้วางไว้เช่นกันสำหรับการพัฒนากีฬาหรือกิจกรรมขาไถ(Balance Bike) ของเด็กปฐมวัยเกิดจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ได้สนับสนุนการวิจัยในโครงการพัฒนาและหาค่าเกณฑ์มาตรฐานเครื่องมือประเมินการคิดเชิงบริหารในเด็กปฐมวัย ซึ่งมีการเก็บข้อมูลเพื่อหาค่าเกณฑ์มาตรฐานการคิดเชิงบริหารของเด็กปฐมวัย ที่สุ่มตัวอย่างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั่วทุกภาคของประเทศไทย พบว่า เด็กไทยวัย2 - 6 ปี มีคะแนนพัฒนาการด้านการคิดเชิงบริหาร โดยรวมล่าช้ากว่าเกณฑ์เฉลี่ยเล็กน้อยไปจนถึงล่าช้ามาก ประมาณเกือบ 30% และในระยะยาวอาจส่งผลเสียต่อการเรียน การทำงาน การอยู่ร่วมกับผู้อื่น ยิ่งไปกว่านั้นพฤติกรรมการคิดเชิงบริหารมีความเกี่ยวข้องกับโรคทางจิตเวช เช่น โรคซน สมาธิสั้น ย้ำคิดย้ำทำ ซึมเศร้า ประพฤติผิดปกติ-เกเรอันธพาล เป็นต้น จนกระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดเป็นนโยบาย ในการส่งเสริมและสนับสนุนพัฒนาเด็กเล็ก พัฒนาเด็กปฐมวัย ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามศักยภาพในแต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

สุเทพ อินทจันทร์ กำแพงเพชร