ผู้ว่าเมืองสี่แคว​ พาเยี่ยมบ้าน วัด โรงเรียนวันธรรมสวนะ(วันพระ)ในอำเภอหนองบัว

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2563ณ วัดเทพสุทธาวาส อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์  โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ ดำเนินกิจกรรมโครงการผู้ว่าเยี่ยมบ้าน วัด โรงเรียน ในวันธรรมสวนะ (วันพระ) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 โดยนายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธาน พร้อมด้วยนางสาวชุติพร เสชัง รองผู้ว่าราชการจังหวัด ว่าที่ ร.ต.ปรีชา พลับน้อย ปลัดจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นางสุกัญญา ชุมอุปการ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครสวรรค์ นางวิยดา พลับน้อย รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครสวรรค์ ว่าที่ ร.ต.ธราธร แข็งขัน นายอำเภอหนองบัว ปลัดอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการในอำเภอหนองบัว ผู้นำท้องถิ่น/ท้องที่ ผู้บริหารสถานศึกษา เด็ก เยาวชน นักเรียน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยพร้อมเพียงกัน 

 วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 1 ณ วัดเทพสุธาวาส อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์กิจกรรมประกอบด้วย พิธีทำบุญเลี้ยงพระ ถวายเพล ถวายผ้าป่าแด่พระภิกษุสงฆ์พิธีถวายเครื่องราชสักการะ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครสวรรค์และคณะได้มอบชุดสุขอนามัยสำหรับผู้สูงอายุ/ผู้ยากไร้   จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนวัดเทพสุทธาวาส เยี่ยมชมนิทรรศการจากโรงเรียนต่างๆในพื้นที่อำเภอหนองบัว สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์เขต 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาที่ 42 ที่มาร่วมงานในวันนี้จำนวน 42 โรงเรียน โดยมีตัวแทนโรงเรียนที่มาร่วมจัดนิทรรศการแสดงผลงานจำนวน 9 โรงเรียน ได้แก่ 1.โรงเรียนวัดเทพสุทธาวาส นำโดย ผอ. ชูศักดิ์ น้อยทา 2.โรงเรียนธารทหาร(แสงสว่างอุปถัมภ์)นำโดย ผอ. วันชัย ยี่รักษ์3.โรงเรียนชุมชนบ้านกระดานหน้าแกล นำโดย ผอ. อรุณ อินทร์แดน4.โรงเรียนบ้านหนองปลาไหล นำโดย ผอ. วิชชเยนทร์ โรพันดุง 5.โรงเรียนบ้านเขามะเกลือ นำโดย ผอ.ธีระพงษ์ เพชรสัมฤทธิ์6.โรงเรียนอุดมพัฒนา นำโดย ผอ. บิณฑิรา สุขสุด 7.โรงเรียนบ้านหนองไผ่ นำโดย ผอ. เทพประทาน ศิโล 8.โรงเรียนบ้านทุ่งทอง นำโดย ผอ.สมนึกประกาศพร 9.โรงเรียนบ้านหนองจิก นำโดย รก.ผอ.อิสรี แฉ่งกอง

   ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์และคณะมอบทุนการศึกษา กระเป๋านักเรียน และอุปกรณ์การเรียนให้แก่เด็กนักเรียนที่มีฐานะยากจน ให้มีโอกาสทางการศึกษาแก่เด็ก ที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติตลอดจนสนับสนุนอุปกรณ์กีฬาให้แก่โรงเรียน เพื่อให้นักเรียนใช้เวลาเวลาว่างให้เกิดประโยชน์ด้วยการเล่นกีฬา เป็นการสร้างสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีให้กับนักเรียน ซึ่งส่งผลให้เด็กมีคุณธรรมจริยธรรมเป็นคนดี คนเก่งและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ทั้งนี้โครงการผู้ว่าพาเยี่ยมบ้าน วัด โรงเรียน วันธรรมสวนะ (วันพระ)จะเป็นโครงการส่งเสริมสนับสนุนให้พุทธศาสนิกชนได้ทำบุญฟังธรรม ในวันพระและเป็นการส่งเสริมการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมสู่ชุมชนให้มีคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์

............ภคพล ครองสิน/รายงาน

ศรีสะเกษ คืบหน้าชาวบ้านเบญจลักษ์โวยโรงงานยางพาราปล่อยน้ำเสียกลิ่้นเหม็นพระป่าสุดทนเตรียมย้ายวัด ขณะที่แกนนำชาวบ้านขอให้หยุดโรงงานเพื่อปรับปรุงแก้ไข

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  จากกรณีที่ นายวรวิทย์   การุณ  อายุ 58 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 229/7 หมู่ 11 ต.เสียว                                  อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้นำตัวแทนของชาวบ้านในเขต ต.เสียว อ.เบญจลักษ์ และตำบลใกล้เคียง ประกอบด้วย นายสมัย   ทำนุ  อายุ  66 ปี  นายภาด   โพธิ์ทอง และนายไชยา  บุญบุตร  ผช.ผญบ.หมู่ 11                         ต.เสียว  นางสุพรรณ   พละศักดิ์  อายุ  38 ปี และคณะ เข้าร้องทุกข์กับสื่อมวลชนว่า  โรงงานยางพาราของสหกรณ์การเกษตรเบญจลักษ์  ได้ปล่อยน้ำเสียเป็นสีดำลงไปในไร่นาและสวนยางพาราของชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับโรงงาน  อีกทั้งน้ำที่เน่าเสียได้ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปเป็นบริเวณกว้าง ทำให้สวนยางพาราของชาวบ้านได้รับผลกระทบอย่างหนัก  ทำให้น้ำยางออกน้อย กลิ่นน้ำเสียทำให้ชาวบ้านแสบตาแสบจมูกมาก  มีชาวบ้านจำนวน   3  หมู่บ้าน 1 วัด 2 ร.ร. ประกอบด้วยบ้านเสียว บ้านโนนใหญ่ บ้านไร่เจริญ วัดป่าโนนใหญ่ โรงเรียนอนุบาลเบญจมิตร นักเรียนประมาณ 500 คน โรงเรียนเบญจลักษ์พิทยา นักเรียนประมาณ 2,000 คน ร้านอาหารและกาแฟ NATURE ที่อยู่ใกล้กับโรงงานยางพาราของสหกรณ์การเกษตรเบญจลักษ์ ได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นมากไม่สามารถที่จะดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข  ชาวบ้านได้เคยร้องเรียนไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหลายครั้งแล้วแต่เรื่องเงียบหายไป ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้นความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 63  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่วัดป่าโนนใหญ่ (ธ.) ต.เสียว                          อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวรวิทย์   การุณ  อายุ 58 ปี  พร้อมด้วย นายภาด   โพธิ์ทอง และนายไชยา                                           บุญบุตร  ผช.ผญบ.หมู่ 11 ต.เสียว  ไปเข้าไปกราบนมัสการพระอาจารย์สุริยันต์  กมโล เจ้าอาวาสวัดป่าโนนใหญ่ เพื่อสอบถามผลกระทบจากกลิ่นเหม็นของโรงงานยางพาราของสหกรณ์การเกษตรเบญจลักษ์ เนื่องจากว่า วัดแห่งนี้เป็นวัดป่ามีพระสงฆ์จำวัดอยู่ จำนวน 5 รูป อยู่ใกล้กับโรงงานยางพารา ซึ่งพบว่า ภายในบริเวณวัดมีทำความสะอาดและจัดบริเวณภายในวัดอย่างสวยงามเหมาะสำหรับการประกอบกิจของสงฆ์และเหมาะสำหรับการมาปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก โดยมีพุทธศาสนิกชนพากันมาปฏิบัติธรรมที่วัดกันอย่างคึกคักทุกวันพระอาจารย์สุริยันต์  กมโล เจ้าอาวาสวัดป่าโนนใหญ่ (ธ.) เล่าว่า วัดแห่งนี้ได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นของโรงงานยางพารามานานประมาณ 4 – 5 ปีแล้ว  โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน กลิ่นเน่าเหม็นจะรุนแรงมาก  โดยกลิ่นเหม็นจะมีทุกวันจะเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 น. เป็นต้นไป จนถึงช่วงเย็นทุกวัน  พอสภาพอากาศเปลี่ยนไปหรือว่ามีลมพัดมา กลิ่นเหม็นก็จะลอยไปทางอื่น  ทำให้พระสงฆ์และญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมได้รับความเดือดร้อนมาก  เวลาสวดมนต์แล้วมีกลิ่นเหม็นลอยมาต้องใช้ผ้ามาปิดจมูก ทำให้ไม่สะดวกต่อการสวดมนต์ไหว้พระ  หากมีกลิ่นเหม็นแบบนี้ตลอดไป พระสงฆ์คงจะต้องพากันย้ายวัด  เพราะว่ากลิ่นเหม็นอาจจะทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของพระสงฆ์และญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมที่วัดเป็นอย่างมากนายวรวิทย์   การุณ  อายุ 58 ปี 

กล่าวว่า  การที่พวกตนออกมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนครั้งนี้ เนื่องจากว่า ได้มีการร้องทุกข์ไปยังหลายส่วนราชการแล้ว  แต่ว่าไม่มีการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือชาวบ้านแต่อย่างใด  ตนเห็นว่า เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนไม่ให้ปัญหาลุกลามใหญ่โตไปมากกว่านี้  เนื่องจาก  นายคำฟอง  ลุนศรี  ประธานสหกรณ์การเกษตรเบญจลักษ์ บอกกับพวกตนว่า เตรียมทำบ่อบำบัดน้ำเสียงแต่ยังไม่มีเงินในการก่อสร้าง  พวกตนจึงเห็นว่า ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องควรที่จะสั่งให้ปิดโรงงานยางพาราของสหกรณ์การเกษตรเบญจลักษ์ตั้งแต่บัดนี้เป็นไป  เพื่อให้โรงงานทำการแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นโดยด่วน  จากนั้น เมื่อมีการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียและกลิ่นเหม็นเรียบร้อยแล้วจึงเห็นควรอนุญาตให้เปิดโรงงานยางพาราต่อไปได้

///ภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าว จ. ศรีสะเกษ  

ศรีสะเกษ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 3 ครั้ง พร้อมทั้งลดการหักเงินค่าหุ้นรายเดือนจากร้อยละ 5 ของเงินเดือนเหลือเพียงเดือนละ 100 บาทเท่านั้น เพื่อช่วยเหลือสมาชิกให้มีเงินเหลือใช้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 63  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด  ต.หนองครก อ.เมือง                            จ.ศรีสะเกษ  ดร.บรรจบ   ไชยสาร  ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด เปิดเผยว่า  เมื่อเร็ว ๆ นี้ช่วงเวลาประมาณ  12.00 – 13.00 น. ตนพร้อมด้วยนางชวนพิศ  วิมลสุข  ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ ได้เดินทางไปที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมผู้แทนสมาชิกและสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด เพื่อเป็นการพบปะรับทราบความคิดเห็นต่าง ๆ ของผู้แทนสมาชิกและสมาชิกสหกรณ์  เพื่อจะได้เป็นข้อมูลแนวทางในการนำไปพัฒนาปรับปรุงการทำงานงานให้บริการสมาชิกของสหกรณ์ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมต่อไป โดยมี นางกัลยรัชต์   เดชจินดา ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดศรีสะเกษ ให้การต้อนรับดร.บรรจบ   ไชยสาร  ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด กล่าวว่า  จากการที่ตนและคณะได้รับความไว้วางใจจากผู้แทนสมาชิกและสมาชิกให้เข้ามาบริหารงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ จำกัด ได้มุ่งมั่นในการพัฒนางานทุกด้านของสหกรณ์เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สหกรณ์และสมาชิกของสหกรณ์ทุกคนอย่างเต็มที่ เช่น  ได้นำเอาระบบโซล่าเซลล์มาติดตั้งบนหลังคาของสหกรณ์ออมทรัพย์ทำให้สามารถลดค่าใช้ไฟฟ้าลงได้กว่า 50 เปอร์เซ็นต์  โดยได้เริ่มดำเนินการมา  2 – 3  เดือนแล้ว   ปี 2563 นี้มีการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของสมาชิกลงจำนวน 3 ครั้ง จากเดิม ร้อยละ 7.25  ต่อปี เป็นร้อยละ 7.15  ต่อปี ลดครั้งที่ 2 เหลือเพียง ร้อยละ 7.00 ต่อปี และลดครั้งที่ 3 เหลือเพียงร้อยละ  6.95 ต่อปี  นอกจากนี้แล้ว ยังได้ลดอัตราการเก็บค่าหุ้นจากร้อยละ 5 ของรายได้เงินเดือนของสมาชิก เหลือเพียงการส่งหุ้นรายเดือน ๆ ละ 100 บาทเท่านั้น  ยกเว้นสมาชิกที่จะให้หักค่าหุ้นเท่าเดิมให้แจ้งยืนยันให้สหกรณ์ได้รับทราบ และคณะกรรมการได้ขยายเวลาการส่งหุ้นรายเดือน ๆ ละ 100 บาท ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เพื่อช่วยเหลือสมาชิกให้มีเงินเหลือใช้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19   คาดว่าเมื่อสิ้นปีบัญชีสหกรณ์จะมีกำไรประมาณ 959 ล้านบาท  โดยจะนำเอาเงินกำไรแบ่งไปเป็นเงินปันผล จำนวน 600 ล้านบาทเศษ  เงินเฉลี่ยคืน 200 ล้านบาทเศษ เป็นทุนสำรอง จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ของกำไร  ซึ่งเงินปันผลจะไม่เกินร้อยละ 6.05 ต่อปี  แม้ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงถึง 3 ครั้ง โดยจะมีการโอนเงินปันผลเฉลี่ยคืนให้แก่สมาชิกทุกคนในวันที่ 28 ธ.ค. 2563  ดร.บรรจบ   ไชยสาร  กล่าวต่อไปว่า ตนขอฝากถึงพี่น้องสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษทุกท่านว่า   องค์กรแห่งนี้  เป็นองค์กรที่พ่อครูแม่ครูเราได้ช่วยกันสร้างขึ้นมา  จึงขอฝากให้ผู้แทนสมาชิกและสมาชิกสหกรณ์จำนวน 19,000 คน

ได้ช่วยกันดูแลประคับประคองทำความเข้าใจกับการบริหารงานของคณะกรรมการ เมื่อมีการลดอัตราดอกเบี้ยรายได้ก็จะต้องลดลงตามสัดส่วน  เพราะฉะนั้นเงินปันผลเฉลี่ยคืนก็จะต้องขยับลดลงบ้าง ก็ขอให้ทำความเข้าใจกันไม่ได้หมายความว่า เมื่อมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงให้แล้วยังต้องการเงินปันผลสูง ๆ อยู่  ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ไม่สอดคล้องกัน เมื่อลดอัตราดอกเบี้ยให้แล้ว เงินปันผลเฉลี่ยคืนก็จะต้องลดลงบ้าง ตามสัดส่วน ตามสมควรแก่เหตุ ก็ขอฝากให้สมาชิกทุกคนได้ทำความเข้าใจในการบริหารงานของคณะกรรมการ ขอให้สมาชิกสหกรณ์ทุกคนมีความสุข มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมต่อไป

//////ภาพ / ข่าว ศิริเกษ   หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ  

กลุ่มนครสวรรค์บ้านเรายังเดินหน้าเคาะประตูบ้านหาเสียงที่ตาคลี 4 เขต ตอบรับดี มีแม่ค้าแจกขนม กราบหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ ผู้สมัครนายก อบจ.นครสวรรค์ เบอร์ 3 กลุ่มนครสวรรค์บ้านเรา พร้อมด้วยนายวิโรจน์ กลิ่นโตนด ผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 1 อ.ตาคลี, นายเผชิญ พวงสมบัติ ผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 2 อ.ตาคลี, นายกิติรัตน์ ภัทรปรีชาสกุล ผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 3 อ.ตาคลี, นายชำนาญ เหลืองบำรุงรักษ์ ผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 4 อ.ตาคลี

โดยแวะที่วัดหนองโพ อ.ตาคลี กราบนมัสการรูปหล่อหลวงพ่อเดิม อดีตพระเกจิชื่อดัง เทพเจ้าแห่งเมืองนครสวรรค์ ต่อจากนั้นพลตำรวจเอกสมศักดิ์ นำคณะผู้สมัครออกเดินแจกบัตร แนะนำตัวกับประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ที่ตลาดนัดหน้าวัดหนองโพ และในตลาด อ.ตาคลีบรรยากาศการหาเสียง คณะของพลตำรวจเอกสมศักดิ์ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีด้วยรอยยิ้ม คำทักทายว่าผู้สมัครนายกตัวจริงดูหนุ่ม หล่อกว่าในภาพอีก และแม่ค้าขายขนมข้าวโปง ขนมไทยโบราณ กับแม่ค้าขายกล้วยปิ้ง ให้ชิมฟรี บอกว่ายินดีจะลงคะแนนให้แต่ต้องลองชิมขนมข้าวโปงกับกล้วยปิ้งฝีมือแม่ค้าก่อน ทำเอาพลตำรวจเอกสมศักดิ์ต้องออกปากชมว่าอร่อยดี แบบนี้มีแรงเดินหาเสียงทั้งวันแน่นอน

!!!!!! ต้อย​ รอบรั้วภูธร​ 0619525644!!!!!! 

กลุ่มนครสวรรค์บ้านเราทรหด ยกทีมลุยหาเสียงไพศาลี ตะคร้อ 3 เขต เช้ายันเย็น เดินกว่า 10 กม.

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ ผู้สมัครนายก อบจ.นครสวรรค์ เบอร์ 3 กลุ่มนครสวรรค์บ้านเรา พร้อมด้วยนายภราดร อุดมการเกษตร ผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 2 อ.ไพศาลี และกลุ่มผู้สมัคร ส.อบจ.อีกหลายเขต ร่วมกันเดินหาเสียงในตลาดสด อ.ไพศาลี แล้วไปช่วยนายสุวิทย์ ฤทธิ์ฉ่ำ ผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 1 อ.ไพศาลี หาเสียงที่บ้านเขาหินกลิ้ง ต่อมาช่วงเย็น ออกไปเดินหาเสียงช่วยนายจรูญ แย้มประดิษฐ์ ผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 3 อ.ไพศาลี ที่ ต.ตะคร้อ รวมระยะทางในการเดินหาเสียงกว่า 10 กม.

บรรยากาศการหาเสียงดูคึกคัก ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ให้ความสนใจในเรื่องการลงคะแนน หลายคนยังสับสนเพราะมีบัตรสองใบ ต้องลงคะแนนเลือกนายก กับเลือก ส.อบจ. ซึ่งยังไม่เคยทำมาก่อน ขณะเดียวกันก็มีประชาชนหลายคนมาร่วมให้กำลังใจ พร้อมทั้งบอกว่าได้แน่นอน ทางกลุ่มผู้สมัครจึงบอกว่า จะให้ได้แน่ๆต้องช่วยกันออกมาลงคะแนน

!!!!! ต้อย​ รอบรั้วภูธร​ 0619525644​!!!!!! 

จังหวัดนครสวรรค์เตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติ บริเวณ สนามกีฬาหน้าศาลากลางจังหวัด พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณเด็กและเยาวชนดีเด่น และมอบทุนเรียนดี ให้กับนักเรียนที่ขยันหมั่นเพียรด้วย

ที่ห้องประชุมแสงเทียน​ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครสวรรค์ นายปรีชา​ เดช​พันธุ์​ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์​ ประธานประชุม​คณะกรรมการ​จัดงานวันเด็กแห่งชาติ พร้อมด้วย นายกอบภณ​ แสงสมบัติ​ รองศึกษาธิการจังหวัดนครสวรรค์​ พร้อมคณะกรรมการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่​ 1​ เพื่อสรุปกิจกรรมที่หน่วยงานองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน จะร่วมกันจัดขึ้นใน​ วันที่​ 9 มกราคม​ 2563 บริเวณสนามกีฬา ศาลากลางจังหวัด ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 07.30 น. เป็นต้นไป 

 กิจกรรมภายในงานประกอบด้วยการแสดงสลับกิจกรรมบนเวที พิธีมอบเกียรติบัตรให้กับนักเรียนและเยาวชนดีเด่น มอบทุนการศึกษาให้นักเรียนที่เรียนดีมีความขยันหมั่นเพียร กิจกรรมขององค์กร หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ​ บริเวณโดยรอบ นอกจากนี้ทุกปี​ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ยังเปิดโอกาสให้ตัวแทนนักเรียนและเยาวชน เข้าชมห้องทำงานเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความมุ่งมั่นด้านการศึกษาเล่าเรียน ส่วนทางด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในบริเวณงานอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังฝากให้ผู้ปกครองเขียนชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋าเด็กเนื่องจากหากพลัดหลงจะสามารถติดต่อประสานงานทันที โดยจะมีจุดประชาสัมพันธ์ใกล้เวที สำหรับปี 2563

!!!!! ต้อย​ รอบรั้วภูธร​ 0619525644​!!!!! 

จังหวัดนครสวรรค์ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระราชกุศล น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ประเทศ

วันนี้ (28 พฤศจิกายน 2563) เวลา 10.00 น. นายปรีชา เดชพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์  ประธานเป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระราชกุศล น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ประเทศ ณ วัดนครสวรรค์ อ.เมืองฯ จ.นครสวรรค์ โดยนำพุทธศาสนิกชนชาวนครสวรรค์ เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้         

สำหรับการจัดพิธีดังกล่าว จังหวัดนครสวรรค์ ได้ดำเนินการตามที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้สนองแนวทางตามมติที่ประชุมมหาเถรสมาคม ให้มีการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ทุกวันเสาร์ โดยเริ่มวันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2563 เป็นเสาร์แรก เนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทยได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติและโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง ผู้คนมีความขัดแย้งทางความคิด เกิดความแตกแยกในสังคม จึงเห็นควรให้มีการนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปเป็นกรอบแนวคิดในการดำรงชีวิตอย่างมีสติ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี  ประกอบกับ ในวันที่ 5 ธ.ค. ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเป็นวันชาติ รวมทั้งเป็นวันพ่อแห่งชาติ การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถือเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ และเพื่อความเป็นสิริมงคลของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า อีกด้วย          นอกจากการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ วัดนครสวรรค์ อ.เมืองฯ จ.นครสวรรค์  ซึ่งเป็นวัดศูนย์กลางประจำจังหวัดและอำเภอเมืองแล้ว วัดศูนย์กลางประจำอำเภอทุกอำเภอของ จ.นครสวรรค์ ยังได้ร่วมจัดพิธี ดังกล่าวอีกด้วย

!!!!!! ต้อย​ รอบรั้วภูธร​0619525644​!!!!!! 

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์เป็นประธานเปิดกิจกรรม " วันเอามือสามัคคีลงแขกเหวี่ยงข้าวนาโยน " ที่อำเภอหนองบัว

เมื่อเวลา 13.30 น. ของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานเปิดกิจกรรม " วันเอามื้อสามัคคี ลงแขกเกี่ยวข้าวนาโยน " ณ พื้นที่ผู้นำต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่รูปแบบประยุกต์ โคก หนองนา โมเดล ของผู้ใหญ่อำนาจ บุญนะ หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยถั่วเหนือ อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีว่าที่ ร.ต.ธราธร แข็งขัน นายอำเภอหนองบัว  ปลัดอำเภอ ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนจิตอาสาตำบลห้วยถั่วเหนือ อำเภอหนองบัว เครือข่ายโคกหนองนาจังหวัดนครสวรรค์ให้การต้อนรับ   เครือข่ายโคกหนองนาจังหวัดนครสวรรค์ เกิดจากการที่ศูนย์ศึกษาพัฒนาชุมชนพิษณุโลก ได้มอบหมายให้จังหวัดนครสวรรค์คัดเลือกผู้นำต้นแบบอำเภอละ 1 คน อำเภอไพศาลี 2 คน รวมเป็น 16 คน ไปเข้ารับการฝึกอบรมทฤษฎีใหม่รูปแบบประยุกต์ โคก หนองนา โมเดล เพื่อกลับมาขยายผลดำเนินการในพื้นที่ตนเอง พร้อมขับเคลื่อนให้ความรู้กับครัวเรือน หมู่บ้านละ 15 ครัวเรือน ทั้ง 15 อำเภอ ในรูปแบบครูพาทำ หลังจากนั้นได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็นเครือข่ายโคกหนองนาจังหวัดนครสวรรค์ขึ้น การจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นการกิจกรรมครั้งที่ 2 ของเดือนพฤศจิกายน 2563 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เครือข่ายโคกหนองนาจังหวัดนครสวรรค์ และชาวบ้านที่สนใจมาร่วมกิจกรรมการสาธิตแปลงข้าว

โดยวิธีการปลูกโดยนาโยน และวิธีการทาบ/ตอนกิ่งพันธุ์มะม่วง เพื่อจัดกิจกรรมการเอามื้อสามัคคีในการเสริมสร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ของเครือข่ายโคกหนองนา และชาวบ้านผู้สมัครใจ เพื่อสามารถถ่ายทอดความรู้ให้ผู้สนใจในการที่จะดำเนินการโคกหนองนาโมเดลโอกาสต่อไป    ในการจัดกิจกรรมในวันนี้เป็นการมาเอามื้อสามัคคีแปลงของผู้ใหญ่อำนาจ บุญนะ เพื่อมาถอดรหัสองค์ความรู้ไปขยายผลในพื้นที่อื่นให้เกิดความยั่งยืน โดยมีกิจกรรมคือ วิธีการเพาะปลูกข้าว โดยวิธีการโยนกล้าให้ได้ผลผลิต การห่มดินเพื่อให้ดินเลี้ยงพืช แห้งชาม น้ำชาม การปล่อยปลากินพืชซึ่งได้รับการสนับสนุนพันธุ์ปลาจากศูนย์วิจัยและเพาะพันธุ์สัตว์ประมงน้ำจืด จังหวัดนครสวรรค์ การสาธิตการใช้พลังทดแทนไฟฟ้าในการสูบน้ำเพื่อการเกษตร โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากภาคเอกชน การสาธิตการทาบ/ ตอนกิ่งพันธุ์มะม่วง และได้รับเกียรติจากผู้แทนในอำเภอหนองบัว/หัวหน้าส่วนราชการอำเภอ/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอหนองบัวและสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครสวรรค์/บริษัทประชารัฐรักสามัคคีนครสวรรค์ จำกัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรสตรี และประชาชนทั่วไป

เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้กว่า 100 คน โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการแต่อย่างใด  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จำนวน 124 ตำบลๆละ 16 แปลง มีรูปแบบการดำเนินงาน คือ การขุดสระกักเก็บน้ำการทำนาเพื่อการยังชีพ การปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ก็คงจะดำเนินการประมาณเดือนธันวาคม 2563 เป็นต้นไป สำหรับการจัดกิจกรรมในวันนี้ก็น่าจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งในการนำไปขยายผลในแปลงอื่นๆต่อไป

ภคพล​ ครองสิน/รายงาน 087-8544888