ชื่นชม..เจ้าหน้าที่กู้ภัยบางแก้วสุโขทัย ทำคลอดให้แม่ค้าผลไม้ถึงในร้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ นส.นภัส สุขเมือง อายุ 25ปี  เจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมกู้ภัยบางแก้วสุโขทัย อ.เมือง จ.สุโขทัย   พร้อมอาสาสมัครกู้ภัยอีก 3 นาย  ปฎิบัติหน้าที่ในเขตรับผิดชอบ เมื่อเวลา 18.25น.วันที่ 23มีค. รับแจ้งมีหญิงสาวท้องแก่มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ขอรับการช่วยเหลือ ที่ร้านขายผลไม้  เลขที่ 184/1-2  ริมถนนวิเชียรจำนงค์ ต.ธานี  อ.เมือง  จึงรุดไปตรวจสอบพบ นส.สุมาลี  ปั้นดี อายุ 32 ปี เจ้าของร้านผลไม้ดังกล่าว ซึ่งท้องแก่ใกล้คลอด นอนร้องโอดโอยอยู่บนเตียงหลังร้าน โดยมีสามีนั่งจับมือ ให้กำลังใจอยู่ข้างๆ          เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงวิทยุขอรถกู้ชีพจากรพ.สุโขทัย ซึ่งมีอุปกรณ์ช่วยเหลือที่พร้อมกว่า  ปรากฏว่าขณะที่รอรถกู้ชีพ  นส.สุมาลี หญิงท้องแก่ปวดท้องทนไม่ไหว เนื่องจากถุงน้ำคร่ำแตก หัวเด็กโผล่ออกมาแล้ว  นส.นภัสพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร จึงใช้ความรู้ที่เข้ารับการอบรมมาจากระบบการแพทย์ฉุกเฉินของรพ.สุโขทัย ช่วยกันทำคลอดจนสำเร็จ ท่ามกลางการลุ้นระทึกของผู้อยู่ในเหตุการณ์ พบว่า เป็นทารกน้อยเพศชาย ผมดกดำ หน้าตาน่ารักน่าชัง มีน้ำหนักแรกคลอด 2,870 กรัม  เมื่อรถกู้ชีพมาถึง จึงได้ส่งต่อเพื่อให้อยู่ในความดูแลของแพทย์ต่อไป     นส.นภัส สุขเมือง  เจ้าของนามเรียกขาน "กู้ภัยบางแก้ว31" หัวหน้าทีมทำคลอดฉุกเฉิน ให้กับ นส.สุมาลี กล่าวว่า เคสนี้เป็นเคสแรกของตนและทีมงาน ตั้งแต่เข้ารับการอบรมหลักสูตรEMR(อาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์) รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือผู้ใกล้คลอดยามวิกฤติฉุกเฉิน จนปลอดภัยทั้งแม่และลูก

พงศ์เทพ สาคร สุโขทัย

ป.ป.ส. ภาค 9 เปิดปฏิบัติการ “เด็ดปีกนักค้ารายย่อย” นราธิวาสกวาดล้าง 280 เป้าหมายในชุมชน จับกุมยาแก้ไอ 2,272 ขวด​

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 23 มีนาคม 2567 ที่บริเวณลานด้านหน้าตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส นายประสาร หยงสตาร์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 9 เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวระดมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติดตามยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยมีพันตำรวจเอก สิทธิพงษ์ หัสรังษี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พ.อ.ทรงเดช สุกนุ้ย รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ร.ท.ชาญณรงค์ จิตต์สามารถ รองหัวหน้าฝ่ายการข่าว กอ.รมน.จ.นราธิวาส ข้าราชการตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองเข้าร่วมภารกิจในครั้งนี้นายประสาร หยงสตาร์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 9 กล่าวว่าภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศนโยบายที่จะลดปัญหายาเสพติดให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งต้องดำเนินการอย่างรอบด้านทั้งการสกัดกั้นยาเสพติดจากภายนอก การปราบปรามจับกุมและดำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจังต่อกลุ่มผู้ค้า พร้อมกับต้องลดจำนวนผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด และลดผลกระทบจากผู้ป่วยจิตเวช เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน โดยการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายผู้ค้ายาเสพติดตามยุทธการ “เด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย” ในวันนี้ดำเนินการเพื่อปราบปราม จับกุมนักค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่ ซึ่งเป็นตัวจักรสำคัญในการแพร่กระจายยาเสพติดลงสู่หมู่บ้านชุมชน เพื่อลดระดับความรุนแรงของปัญหายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่องจากยาเสพติด คืนความปลอดภัย ความสงบสุขให้กับ ประชาชน รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการดำเนินงานของรัฐบาล และ การนำประมวลกฎหมายยาเสพติดมาบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรมในทุกมิติทั้งนี้สำนักงาน ป.ป.ส. โดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. จึงมีนโยบายในการปราบปรามจับกุมผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ ควบคู่กับการปราบปราม จับกุมผู้ค้ารายใหญ่ที่เป็นนายทุน และเป็นผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง จึงกำหนดยุทธการ “เด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย”ขึ้นเพื่อปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่อย่างจริงจัง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถลดปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดได้อย่างเป็นรูปธรรม และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส โดยกำหนดการปิดล้อม ตรวจค้นผู้ค้ายาเสพติดยุทธการ “เด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย” ขึ้นพร้อมกัน ในระหว่างวันที่ 22 - 23 มีนาคม 2567 จำนวน 280 เป้าหมายโดยปฏิบัติการในครั้งนี้เน้นการปิดล้อมตรวจค้นในชุมชนที่เป็นพื้นที่แพร่ระบาดของยาเสพติดตามข้อร้องเรียนของประชาชน และข้อมูลจากผู้เสพตามระบบซักถามของ ตำรวจ โดยสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 9 ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง นำเครื่องมือเอ็กซเรย์ ตรวจสอบการลักลอบส่งยาเสพติด/สิ่งผิดกฎหมายผ่านบริษัทขนส่งเอกชน ซึ่งพบยาแก้ไอขนาด 60 ม.ล.จำนวน 2,272 ขวด ยาแก้ปวดชนิดรุนแรงทามาแคปจำนวน 2 แผง 20 เม็ด และยาแก้แพ้โปรเมทาซีนจำนวน 3 ขวด โดยทำการตรวจยึดของกลางไว้เพื่อส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาส  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

กอ.รมน.ภาค 4 สน. ชี้แจงความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ จ.นราธิวาส ควบคุมตัวผู้สงสัยได้ 6 ราย​

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2567 เวลา 02.00 น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดนราธิวาส สนธิกำลังร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจส่วนหน้า, กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส, หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดยะลา, หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดปัตตานี, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 เข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยที่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ กรณีเหตุคนร้าย จำนวน 10 คน ปล้นรถยนต์กระบะตอนเดียว ยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีขาว ป้ายทะเบียน ผธ 597 สงขลา ของบริษัทหาดทิพย์ จากพื้นที่ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส จากนั้นคนร้าย จำนวน 3 คน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ปล้นทรัพย์ร้านวัสดุก่อสร้างพื้นที่ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ในขั้นตอนการปฏิบัติกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่พูดคุยและสร้างความเข้าใจแก่ครอบครัวและญาติของผู้ต้องสงสัยให้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด และจากการบังคับใช้กฎหมายสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ จำนวน 6 ราย ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวไปยังยังศูนย์ซักถาม เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามและขยายผล ดังนี้   ศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 จำนวน 3 ราย ทราบชื่อ ดังนี้ 1. นายรุสลาม  หะยีวาเด็ง 2. นายรุซลัน  แมเร๊าะ 3. นายมะขารู  ดาวอ   ศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 จำนวน 3 ราย ทราบชื่อ ดังนี้ 1. นายมะรอวี  ตาฮู   2. นายมูหัมมัดซอรี อุมา   3. นายมูฮัมหมัด ดือราซอ     กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามกฎหมาย ป.อาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

รองนายกฯสมศักดิ์ ลงพื้นที่เพื่อกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ในเขตตรวจราชการที่ 18 จังหวัดนครสวรรค์

ว​ันที่ 20 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 น. ที่โรงเรียนเก้าเลี้ยววิทยา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี  พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่เพื่อกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ในเขตตรวจราชการที่ 18 จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีนายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมให้การต้อนรับ โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี  พร้อมคณะฯ เดินทางมาดูการดำเนินงานบำบัดฟื้นฟูผู้ที่ติดยาเสพติด เก้าเลี้ยวโมเดล พร้อมรับฟังการนำเสนอรูปแบบการพัฒนาระบบสุขภาพจิต ยาเสพติด ในรูปแบบ “เก้าเลี้ยวโมเดล” และรองนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายและแนวทางการดำเนินการจัดการปัญหายาเสพติดในพื้นที่  สุดท้ายได้เดินเยี่ยมชมบูธนิทรรศการ และมาพบปะกับ อสม. เนื่องในวันอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านแห่งชาติ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้นำรูปแบบ “เก้าเลี้ยวโมเดล” ไปขยายผลให้ทุกอำเภอ ทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ นำไปปรับใช้เป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและผู้ป่วยที่เป็นจิตเวช ก่อนจะเกิดความเสียหาต่สังคมและชุมชน ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผมกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนเป็นอย่างดี จากนั้นรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางต่อมาที่วิสาหกิจชุมชนเพียวพลัสฟาร์ม เพื่อลงพื้นที่ดูโครงการพัฒนาศักยภาพอาสาปศุสัตว์ ต่อมาได้เดินชมฟาร์มพร้อมทั้งศึกษารูปแบบและแนวทางการเลี้ยงโค ทั้งนี้ยังได้รับชมการสาธิตการทำพืชหมักจากวัสดุที่เหลือใช้และได้ตั้งชื่อลูกโคเกิดใหม่ มีชื่อว่า ฟิวเจอร์ ที่แปลว่าอนาคตและในเวลาต่อมา 13.30 น. ได้เดินทางไปยังกองทุนหมู่บ้านตายาย ตำบลบางประมุง อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อศึกษาดูงานการดำเนินการกองทุนหมู่บ้านตายาย โดยกองทุนหมู่บ้านตายายมีการดำเนินงานตามนโยบาย โดยมีเงินทุนหมุนเวียน บัญชีที่ 1 (เงินล้าน) จำนวน 2,745,848 บาท และเงินหมุนเวียน บัญชีที่ 2 (หุ้นสัจจะ) จำนวน 427,884 บาท นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการดำเนินงานของกลุ่มกองทุนต่างๆ เช่น กองทุนอยู่ดีมีสุข กองทุนโรงเรียนจชุมชน ละกองทุนแม่ของแผ่นดิน เป็นต้น ทั้งนี้มีคติสอนใจ คำขวัญกองทุนหมู่บ้าน “ซื่อสัตย์ ยุติธรรม โปร่งใส พัฒนา”จากนั้นได้เดินเยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์สินค้า ของสมาชิกกองทุนและชุมชนเมือง อาทิ กลุ่มจักรสานไม้ไผ่ กลุ่มดอกไม้ประดิษฐ์ กลุ่มข้าวไร้เบอร์รี่ปลอดสารพิษ และกลุ่มผักปลอดสารพิษ เป็นต้น

☎️☎️ต้อย​ รอบ​รั้ว​ภูธร​ -​0838823240​-0619782952​☎️☎️

อสม.ดิจิทัล ใส่ใจเทคโนโลยี ประสานภาคี รวมพลังสร้างสุขภาพ

เทศบาลนครนครสวรรค์ จัดกิจกรรม ”วันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ“วันที่​ 20 มีนาคม​ 2567​ เวลา 08.00 น. ที่สนามกีฬาจังหวัดนครสวรรค์ นายจิตตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์ เป็นประธานในพิธีเปิด งาน อสม.ดิจิทัล ใส่ใจเทคโนโลยี ประสานภาคี รวมพลังสร้างสุขภาพ  กิจกรรม เนื่องใน ”วันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ“ เทศบาลนนครนครสวรรค์ กิจกรรมประกอบด้วย การมอบใบประกาศเกียรติคุณและประกาศนียบัตร ให้แก่ อสม.ที่ปฎิบัติงานครบ 10 ปี และ 20 ปี  การเดินขบวนพาเหรดรวมพลังสร้างสุขภาพ  อาทิ ขบวน ”อสม.ชวนคนไทยสร้างสุขภาพดี ”3อ 2ส“  ขบวน “มีลูกเมื่อพร้อม ครอบครัวสดใส มีลูกก่อนวัย สังคมไทยแย่ลง” ขบวน “อสม.ร่วมใจ ขับขี่ปลอดภัย สวมใส่หมวกกันน๊อค” ขบวน “อสม.ชวนคนไทยลดฝุ่น PM 2.5 ช่วยโลก ช่วยเรา ” ขบวน “ทิ้งขยะลงถัง รวมพลังรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดโลกร้อน” ขบวน “อสม.ร่วมพลัง พิชิตยุงลาย วายร้ายตัวโม่ง”   การแข่งขันกีฬามหาสนุก ทั้งระหว่างอสม.ชุมชนต่าง และ อสม.กับผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลนครนครสวรรค์  และการประกวดกองเชียร์  มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประกอบ อสม. ในเขตเทศบาลนครนครสวรรค์ คณะผู้บริหารเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย ได้แก่ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ โรงพยาบาลร่มฉัตร รวมทั้งสิ้น 820 คน

☎️☎️☎️ต้อย​ รอบ​รั้ว​ภูธร​-0838823240​-0619782952​☎️☎️☎️